วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2567

คุฏบะฮ์ - เราะมะฎอน ปลดปล่อยจากนรก - ซุฟอัม อุษมาน


 ฟังคุฏบะฮ์นี้ได้จาก YouTube

คุฏบะฮ์ - เราะมะฎอน ปลดปล่อยจากนรก - ซุฟอัม อุษมาน - YouTube

หรือบน SoundCloud

Stream คุฏบะฮ์ - เราะมะฎอน ปลดปล่อยจากนรก - ซุฟอัม อุษมาน by e-Daiyah | Listen online for free on SoundCloud



พี่น้องผู้ศรัทธาที่อัลลอฮ์รักทุกท่าน

เราอยู่ในเดือนเราะมะฎอน ตลอดทั้งเดือนอัลลอฮ์มีคำสั่งให้เราถือศีลอด ซึ่งมีเป้าหมายของมัน เดือนเราะมะฎอนมีเป้าหมายหลายประการที่อัลลอฮ์ต้องการให้เราซึมซับในชีวิตของเรา ยิ่งเข้าใกล้ช่วงสุดท้ายของเดือนก็ยิ่งต้องตรวจสอบตัวเองดูว่าเราได้บรรลุเป้าหมายอะไรไปบ้างแล้วกี่อย่าง ตรวจสอบเป้าหมายของเราะมะฎอนตามที่ระบุจากหลักฐานต่างๆ ทั้งในอัลกุรอานและหะดีษ

ในอัลกุรอาน อัลลอฮ์ สุบหานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสว่า

﴿ يَٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُواْ كُتِبَ عَلَيۡكُمُ ٱلصِّيَامُ كَمَا كُتِبَ عَلَى ٱلَّذِينَ مِن قَبۡلِكُمۡ لَعَلَّكُمۡ تَتَّقُونَ 183 ﴾ [البقرة: 183] 

ความว่า “บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! การถือศีลอดนั้นได้ถูกบัญญัติแก่พวกเจ้าแล้ว เช่นเดียวกับที่ได้ถูกกำหนดแก่บรรดาผู้คนก่อนหน้าพวกเจ้ามาก่อน เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้ยำเกรง” (อัล-บะเกาะเราะฮ์ 183)

อัลลอฮ์สั่งให้เราถือศีลอดเพื่อให้เราเป็นผู้ที่มีความยำเกรง มีความตักวา นี่คือเป้าหมายหนึ่งที่ระบุอยู่ในอัลกุรอาน

ถ้าในหะดีษของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็มีกล่าวไว้ด้วย เช่น

«مَن صَامَ رَمَضَانَ، إيمَانًا واحْتِسَابًا، غُفِرَ له ما تَقَدَّمَ مِن ذَنْبِهِ». [الراوي: أبو هريرة، البخاري 38، مسلم 760]

ความว่า “ผู้ใดที่ถือศีลอดเราะมะฎอน ด้วยความศรัทธาและบริสุทธิ์ใจหวังในความโปรดปรานของอัลลอฮ์ เขาจะได้รับการอภัยโทษจากบาปที่ผ่านมา” (รายงานจากอบู ฮุร็อยเราะฮ์ บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ 38 และมุสลิม 760)

ในหะดีษนี้บอกว่า ใครที่ถือศีลอดด้วยความศรัทธาและอิคลาศเพื่อความโปรดปรานและผลบุญจากอัลลอฮ์ พระองค์ก็จะอภัยโทษให้กับเขา นี่ก็เป็นเป้าหมายหนึ่งในเดือนเราะมะฎอน

 

พี่น้องครับ

ยังมีเป้าหมายอื่นๆ อีกหลายประการ มีทั้งเป้าหมายรวมและเป้าหมายย่อย เป้าหมายรวมก็คือเพื่อจะได้มีความตักวา ส่วนเป้าหมายย่อยก็อาจจะกล่าวได้ว่าเพื่อลบบาป เพื่อศึกษาอัลกุรอาน เพื่อปรับสมดุลร่างกายให้มีสุขภาพที่ดี เพื่อร่วมสร้างสังคมที่สันติสุขด้วยการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เพื่อขอสิ่งที่ตัวเองปรารถนาในคืนลัยละตุลก็อดร์ซึ่งเป็นคืนที่ดีที่สุดประเสริฐกว่าหนึ่งพันเดือน ฯลฯ

สิ่งเหล่านี้ คือ เป้าหมายต่างๆ ที่มีอยู่ในเดือนเราะมะฎอน แต่ยังมีเป้าหมายหนึ่งที่สำคัญมากและไม่ควรมองข้าม นั่นก็คือ เป้าหมายในการปลดตัวเองให้พ้นจากการเป็นชาวนรก เพราะเป้าหมายนี้ก็ถูกพูดถึงในหะดีษของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เช่นเดียวกันว่า

«وَلِلَّهِ عُتَقَاءُ مِنَ النَّارِ وَذَلِكَ فِي كُلِّ لَيْلَةٍ» [الراوي: أبوهريرة، أخرجه الترمذي 682، وابن ماجه 1642، صححه الألباني في صحيح ابن ماجه واللفظ له]

ความว่า “สำหรับอัลลอฮ์นั้น มีผู้ที่พระองค์ปลดปล่อยพวกเขาให้พ้นจากนรก ซึ่งจะเกิดขึ้นทุกคืนของเราะมะฎอน” (รายงานจากอบู ฮุร็อยเราะฮ์ บันทึกโดย อัต-ติรมิซีย์ 682 และ อิบนุ มาญะฮ์ 1642 อัล-อัลบานีย์วินิจฉัยว่าเศาะฮีห์ นี่เป็นสำนวนของอิบนุ มาญะฮ์)

อัลลอฮ์จะทรงปลดปล่อยบ่าวของพระองค์ในทุกค่ำคืนของเดือนเราะมะฎอนให้พ้นจากนรก นี่ต้องเป็นเป้าหมายหนึ่งของเรา ต้องมีความหวังว่าในจำนวนรายชื่อที่อัลลอฮ์จะลบออกจากรายชื่อชาวนรกนั้นต้องมีชื่อของเราด้วย ตั้งไว้เป็นเป้าหมายสำหรับเดือนเราะมะฎอนนี้

ในรายงานอื่นที่เล่าจาก อบู อุมามะฮ์ และ ญาบิร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา มีสำนวนว่า

«إنَّ للهِ تعالى عند كلِّ فطرٍ عُتَقاءَ من النارِ، وذلك في كلِّ ليلةٍ» [صحيح الجامع الصغير 2170، حديث حسن]

ความว่า “แท้จริงแล้ว สำหรับอัลลอฮ์นั้น ณ เวลาละศีลอดทุกครั้ง จะมีผู้ที่พระองค์ปลดปล่อยให้พ้นจากนรก และมันจะเกิดขึ้นทุกๆ คืนของเราะมะฎอน” (เศาะฮีห์ อัล-ญามิอฺ 2170 หะดีษหะสัน)

 

พี่น้องครับ

หากมีอะไรหลายๆ อย่างที่เราอยากจะขอและปรารถนาอยากจะได้ในเดือนเราะมะฎอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับดุนยา หรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง กับครอบครัว กับลูกหลาน เรื่องที่เกี่ยวข้องกับริซกี อาชีพหรือธุรกิจ และกำไรอื่นๆ ในดุนยานี้ ได้โปรดให้มีอีกอย่างหนึ่ง ให้มีเป้าหมายในการขอเพื่อให้เรารอดพ้นจากการเป็นชาวนรกอีกหนึ่งอย่างด้วย ซึ่งนี่คือเป้าหมายสูงสุดเหนือเป้าหมายอื่นๆ ทั้งหมดที่เราขอก่อนหน้านี้

เหตุใดที่เราต้องขอให้พ้นจากนรก เพราะมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ไม่มีใครที่สามารถทนทานต่อการลงโทษของอัลลอฮ์ สุบหานะฮูวะตะอาลา ในนรกได้ เราไม่สามารถขอร้องจากอัลลอฮ์เพื่อที่จะพักโทษในนรกได้แม้แต่นาทีเดียวก็ตาม ขอลดการลงโทษก็ทำไม่ได้ หรือจะขอตายไปเลยให้มันสิ้นซากจะได้จบๆ จากการลงโทษที่เจ็บปวดทรมานก็ยังทำไม่ได้ ใครที่เป็นชาวนรกโดยเฉพาะผู้ที่ต้องรับโทษในนรกตลอดกาล พวกเขาจะไม่มีวันตายและไม่มีวันลดโทษ พระองค์อัลลอฮ์ตรัสว่า

﴿ وَٱلَّذِينَ كَفَرُواْ لَهُمۡ نَارُ جَهَنَّمَ لَا يُقۡضَىٰ عَلَيۡهِمۡ فَيَمُوتُواْ وَلَا يُخَفَّفُ عَنۡهُم مِّنۡ عَذَابِهَاۚ كَذَٰلِكَ نَجۡزِي كُلَّ كَفُورٖ 36 ﴾ [فاطر: 36] 

ความว่า “ส่วนบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา พวกเขาจะได้รับไฟนรกญะฮันนัม (เป็นการตอบแทน) โทษนั้นจะไม่จัดการจนพวกเขาตาย ขณะเดียวกันมันก็จะไม่ถูกลดหย่อนแก่พวกเขาแม้แต่น้อย เช่นนั้นแหละเราจะตอบแทนผู้ปฏิเสธศรัทธาทุกคน” (ฟาฏิร 36)

รูปแบบต่างๆ ของการลงโทษในนรกนั้นสามารถที่จะทำให้คนผู้หนึ่งตายได้เลยในวินาทีนั้น แต่พระองค์ไม่ให้เขาตาย เพื่อที่เขาจะได้รับการทรมานอย่างไม่สิ้นสุดซ้ำแล้วซ้ำอีกวนเวียนไปไม่จบสิ้น วัลอิยาซุบิลลาฮ์มินซาลิก

 

﴿ وَقَالَ ٱلَّذِينَ فِي ٱلنَّارِ لِخَزَنَةِ جَهَنَّمَ ٱدۡعُواْ رَبَّكُمۡ يُخَفِّفۡ عَنَّا يَوۡمٗا مِّنَ ٱلۡعَذَابِ 49 ﴾ [غافر: 49]   

ความว่า “และบรรดาผู้ที่ทรมานอยู่ในนรกจะกล่าวแก่ยามเฝ้าประตูนรกว่า โปรดช่วยวิงวอนขอต่อพระเจ้าของพวกท่านให้ทรงลดหย่อนการลงโทษแก่เราสักวันหนึ่งเถิด” (ฆอฟิร 49)

ดังนั้น สิ่งที่เราต้องกำหนดเป็นเป้าหมายก็คือ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ฉันไม่ขอเป็นชาวนรก ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้รับการลบชื่อออกจากการเป็นชาวนรก ซึ่งสิ่งนี้จะเกิดขึ้นทุกค่ำคืนของเดือนเราะมะฎอน

 

พี่น้องครับ

การปลดปล่อยจากนรกในทุกค่ำคืนของเราะมะฎอนนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? มีคำอธิบายจากบรรดาอุละมาอ์ว่า การปลดปล่อยจากนรก คือการที่อัลลอฮ์อภัยโทษให้กับพวกเขา ตอบรับอะมัลอิบาดะฮ์ของพวกเขา ปกป้องพวกเขาไม่ให้ทำความผิดที่เป็นสาเหตุของการได้รับโทษในนรก ดังนั้น จึงสนับสนุนให้มุ่งมั่นทำความดีต่างๆ อย่างตั้งใจเพื่อจะได้เป็นผู้ที่บรรลุเป้าหมายความสำเร็จให้เป็นชาวสรรค์และพ้นจากการเป็นชาวนรก[1]

 จะเห็นได้ว่า เหตุแห่งการพ้นจากนรกในเดือนเราะมะฎอนนั้นมีมากมายเหลือเกิน อิบาดะฮ์ต่างๆ ที่เราทำทั้งหมดคือมูลเหตุดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการถือศีลอด การละหมาดยามค่ำคืน การอ่านอัลกุรอาน การบริจาคทาน การขอดุอาอ์ ฯลฯ อะมัลต่างๆ ที่เราทำในเดือนเราะมะฎอน คือปัจจัยที่อัลลอฮ์จะลบบาปของเรา และตราบใดที่เราไม่มีบาปเราก็จะไม่ใช่ชาวนรกอีกต่อไป

รวมถึงการที่เราสามารถรักษาตัวเองไม่ให้ทำผิดบาปต่ออัลลอฮ์ในเดือนเราะมะฎอน ด้วยบรรยากาศของเดือนนี้ที่ทำให้เรามีความตระหนักอย่างบริสุทธิ์ใจที่จะหลีกเลี่ยงไม่ทำบาป ทำให้บาปของเราลดลงอย่างมาก นี่คือสภาพอันสวยงามของเดือนเราะมะฎอนที่พร้อมจะให้เราได้ประพฤติตนเป็นผู้รอดพ้นจากนรก

แม้กระทั่ง ความประเสริฐของตัวการถือศีลอดเอง ก็มีอานิสงค์โดยตรงต่อการป้องกันตัวเองให้พ้นจากไฟนรก ในหะดีษที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า

«مَن صامَ يَوْمًا في سَبيلِ اللَّهِ، بَعَّدَ اللَّهُ وجْهَهُ عَنِ النَّارِ سَبْعِينَ خَرِيفًا» [الراوي: أبو سعيد الخدري، البخاري ،2840، مسلم، 1153]

ความว่า “ผู้ใดก็ตามที่ถือศีลอดหนึ่งวันในหนทางของอัลลอฮ์ พระองค์จะทำให้ใบหน้าของเขาห่างไกลจากไฟนรกถึงเจ็ดสิบปี” (รายงานจากอบู สะอีด อัล-คุดรีย์ บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ 2840 และ มุสลิม 1153)

การถือศีลอดเพื่อหนทางของอัลลอฮ์ในที่นี้ หมายถึง ด้วยความอิคลาศบริสุทธิ์ใจต่ออัลลอฮ์ เป็นการเชื่อฟังต่อคำสั่งของอัลลอฮ์ ไม่ใช่เพื่อโอ้อวดหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด[2] อัลลอฮ์จะให้เขาห่างไกลจากนรกถึงเจ็ดสิบปีต่อหนึ่งวันที่เขาถือศีลอด อัลลอฮุอักบัร!

เรามีความจำเป็นต้องทำอะมัลอิบาดะฮ์ และทุกครั้งที่เราทำความดีใดๆ ขอให้ตระหนักอยู่เสมอว่า สิ่งที่เราทำขอให้มันเป็นปัจจัยเพื่อให้เราพ้นจากนรก แม้กระทั่งแค่การบริจาคเล็กๆ น้อยๆ เท่ากับซีกเดียวของผลอินทผลัมก็ตาม ในหะดีษที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม พูดถึงวันกิยามะฮ์ที่บ่าวจะต้องเจอกับอัลลอฮ์โดยไม่มีล่ามแปล พระองค์ถามเขาว่าเหตุใดบ่าวจึงไม่บริจาค ทั้งๆ ที่พระองค์ประทานความมั่งคั่งให้มากมายจนสุดท้ายเขาต้องเข้านรก ในตอนท้ายหะดีษท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงสั่งให้บรรดาเศาะหาบะฮ์หมั่นบริจาคเพื่อให้ตัวเองพ้นจากนรกแม้ด้วยซีกเดียวของอินทผลัมก็ตาม

«اتَّقُوا النَّارَ ولو بشِقَّةِ تَمْرَةٍ، فمَن لَمْ يَجِدْ شِقَّةَ تَمْرَةٍ فَبِكَلِمَةٍ طَيِّبَةٍ» [الراوي: عدي بن حاتم، البخاري، 3595، مسلم، 1016]

ความว่า “จงป้องกันตัวเองจากนรกแม้ด้วยการบริจาคอินทผลัมแค่ซีกเดียว ใครที่ไม่มีอินผลัมแค่ซีกเดียวก็จงให้ทานด้วยคำพูดที่ดี” (รายงานจากอะดีย์ บิน หาติม บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ 3595 และมุสลิม 1016)[3]

การบริจาคด้วยอินทผลัมแค่ซีกเดียวก็เป็นเหตุให้ป้องกันจากไฟนรกได้ มาชาอ์อัลลอฮ์

ในวันกิยามะฮ์มนุษย์จะต้องเดินข้ามสะพานศิรอฏที่พาดผ่านนรก แต่ละคนจะมีสภาพการเดินผ่านที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับระดับอะมัลความดีที่ได้ทำไว้ บางคนผ่านไปได้เร็วดั่งสายฟ้าแลบ บางคนเหมือนขี่ม้า บางคนต้องเดิน บางคนต้องคลาน และบางคนก็ไม่รอด เพราะนรกจะคอยตะครุบคนที่เดินผ่านจากบรรดาคนที่ต้องรับโทษให้ตกลงไปจากสะพาน ดังนั้น การป้องกันตัวเองให้พ้นจากนรกจึงเป็นภารกิจที่สำคัญมากสำหรับพวกเราทุกคน ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงสั่งเสียให้ป้องกันตัวเองนรก แม้ด้วยการบริจาคเพียงแค่อินผลัมครึ่งเม็ด

มีความหมายเพิ่มเติมที่สามารถขยายความได้ จากหะดีษของท่านหญิงอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา วันหนึ่ง มีผู้หญิงยากจนคนหนึ่งมาขอรับอาหารที่บ้านของนาง มาพร้อมกับลูกสาวสองคน ท่านหญิงให้อินทผลัมไปคนละเม็ด ลูกสาวสองคนเมื่อกินอินทผลัมของตนหมดแล้วยังไม่พอ ผู้เป็นแม่ที่กำลังจะหยิบอินทผลัมเข้าปากของตัวเอง จำใจต้องแบ่งลูกสุดท้ายที่เหลือเป็นสองซีกมอบให้กับลูกสาวทั้งสองคนละซีก ท่านหญิงอาอิชะฮ์รู้สึกตื้นตันใจที่ได้เห็น และเล่าเรื่องนี้ให้ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้รับฟัง ท่านนบีบอกกับนางว่า

«إنَّ اللَّهَ قدْ أَوْجَبَ لَهَا بهَا الجَنَّةَ، أَوْ أَعْتَقَهَا بهَا مِنَ النَّارِ» [الراوي: عائشة أم المؤمنين، مسلم 2630]

ความว่า “แท้จริงแล้ว อัลลอฮ์ได้กำหนดสวรรค์ไว้ให้แก่นางแล้ว หรือพระองค์ได้ปลดปล่อยนางให้พ้นจากนรกแล้ว” (บันทึกโดยมุสลิม 2630)

มาชาอ์อัลลอฮ์ การทำเรื่องที่ดูเล็กๆ น้อยๆ นี้ แต่ยิ่งใหญ่เหลือเกินในสายตาของอัลลอฮ์ สุบหานะฮูวะตะอาลา

นี่คือตัวอย่างที่เราทำได้ แน่นอนที่สุด ในเดือนเราะมะฎอนมีอะมัลมากมายที่เราทำได้เพื่อเข้าหาอัลลอฮ์ สุบหานะฮูวะตะอาลา และเป็นเหตุให้เราได้รอดพ้นจากไฟนรกในวันอาคิเราะฮ์ อามีน ยาร็อบบัลอาละมีน

 

พี่น้องผู้ศรัทธาทุกท่าน

ในก็ตามที่มีคำปฏิญาณ ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์ เขาก็จะได้เป็นชาวสวรรค์ อินชาอ์อัลลอฮ์ แม้ว่าบางคนอาจจะต้องผ่านนรกก่อนก็ตาม วัลอิยาซุบิลลาฮ์มินซาลิก นี่เป็นข้อเท็จจริงที่เราต้องให้สมดุลระหว่างความหวังและความกลัว

ความหวังก็คือ ทุกคนที่มีคำปฏิญาณ ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์ จะได้เข้าสวรรค์ ความกลัวก็คือ บางทีเราอาจจะต้องเข้านรกก่อนเพราะบาปที่เราทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ต้องการ เราไม่เอาสภาพที่ต้องเข้านรกก่อนที่จะเข้าสวรรค์ เราขอให้ได้เข้าสวรรค์เลยโดยไม่ต้องผ่านนรก

เพราะฉะนั้น อัลลอฮ์ สุบหานะฮูวะตะอาลา และท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงได้สอนเราให้ขอดุอาอ์ มีดุอาอ์อะไรบ้างที่จะทำให้เรานั้นพ้นจากนรก? มีเยอะแยะมากมาย และบางทีหากเราไม่รู้ดุอาอ์ที่เป็นตัวบทภาษาอาหรับ เราก็ยังสามารถขอด้วยภาษาที่เราเข้าใจเองได้ เมื่อรู้แล้วว่าพระองค์อัลลอฮ์จะปลดปล่อยบ่าวของพระองค์ให้พ้นจากนรกทุกวันของเดือนเราะมะฎอน เราก็ขอจากพระองค์ได้เลยด้วยภาษาที่เราเข้าใจว่า โอ้ อัลลอฮ์ ได้โปรดให้ฉันพ้นจากนรกด้วยเถิด ได้โปรดปลดปล่อยพ่อแม่ของฉัน ครอบครัวของฉัน ลูกหลานของฉัน ให้พ้นจากไฟนรกด้วยเถิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาละศีลอดตามที่ปรากฏในหะดีษก่อนหน้านี้

และหนึ่งในดุอาอ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือ ดุอาอ์ที่ปรากฏในอัลกุรอานว่า

﴿رَبَّنَآ ءَاتِنَا فِي ٱلدُّنۡيَا حَسَنَةٗ وَفِي ٱلۡأٓخِرَةِ حَسَنَةٗ وَقِنَا عَذَابَ ٱلنَّارِ 201﴾ [البقرة: 201] 

ความว่า “โอ้ พระผู้อภิบาลของเรา ได้โปรดประทานความดีงามแก่เราในโลกดุนยานี้ และประทานความดีงามแก่เราในวันอาคิเราะฮ์ และขอทรงปกป้องเราให้พ้นจากนรกด้วยเถิด” (อัล-บะเกาะเราะฮ์ 201)

เพราะฉะนั้น พี่น้องครับ ได้โปรดเป็นห่วงตัวเอง เป็นห่วงคนที่เรารักด้วยการขอดุอาอ์ให้เราทุกคนปลอดภัยจากนรก ในเดือนเราะมะฎอน ในช่วงเวลาที่ประเสริฐที่สุดของปี



[1] ดูเพิ่มเติมจาก t.ly/Swl-S

[2] ดูเพิ่มเติมจาก t.ly/qD_Am และ t.ly/gm4c2

[3] ดูหะดีษฉบับเต็มได้จาก t.ly/5GUOO


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

- สงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นใดๆ ก็ตามที่พิจารณาว่าไม่เหมาะควร -

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น