วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ท่านอาจจะได้รับริซกีเพราะเขา




عن أنس بن مالك رضي الله عنه قال: كانَ أخَوانِ على عَهْدِ النَّبيِّ صلَّى اللَّهُ علَيهِ وسلَّمَ فَكانَ أحدُهُما يأتي النَّبيَّ صلَّى اللَّهُ علَيهِ وسلَّمَ والآخرُ يحترِفُ، فشَكَى المحترفُ أخاهُ إلى النَّبيِّ صلَّى اللَّهُ علَيهِ وسلَّمَ فقالَ: «لعلَّكَ ترزقُ بِهِ» صحيح الترمذي للألباني، رقم: 2345.


ความหมาย 
เล่าจากอะนัส บิน มาลิก เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ ว่า มีพี่น้องสองคนในยุคของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม คนหนึ่งมาเรียนกับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เป็นประจำ ส่วนอีกคนหนึ่งทำงานหาเลี้ยงชีพ คนที่ทำงานได้ร้องเรียนกับท่านนบีว่า พี่น้องของตนไม่ได้ช่วยเหลือทำงานหาเลี้ยงชีพกับตนบ้าง ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงตอบเขาไปว่า “บางที ที่ท่านได้รับริซกีอยู่นั้น อาจจะเพราะมีเขาเป็นต้นเหตุก็เป็นได้” บันทึกโดย อัต-ติรมิซีย์ เป็นหะดีษที่อัล-อัลบานีย์วินิจฉัยว่าเศาะฮีห์ ในเศาะฮีห์ อัต-ติรมิซีย์ หมายเลข 2345



คำอธิบายหะดีษ

การแสวงหาความรู้และการอุปการะผู้แสวงหาความรู้เป็นเหตุผลประการหนึ่งที่เพิ่มพูนริซกีของบุคคลหนึ่ง ดังนั้นใครก็ตามที่แสวงหา ทำงาน ได้รับ และดูแลผู้แสวงหาความรู้ศาสนา หวังว่าอัลลอฮ์จะทรงตอบแทนคนผู้นั้นและขยายขอบเขตเพิ่มพูนริซกีในการดำรงชีวิตของเขา ‎

ในหะดีษนี้ อะนัส อิบนุ มาลิก (ขออัลลอฮ์ทรงพอพระทัยท่าน) กล่าวว่า มีพี่น้องสองคนในยุคของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม หนึ่งในสองพี่น้องได้มาเรียนกับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เพื่อมาฟังหะดีษของท่านและเรียนศาสนาจากท่าน ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นคนที่ทำงานหาเลี้ยงชีพ กล่าวคือ พี่น้องอีกคนหนึ่งทำงาน มีรายได้ และทำอาชีพ และคนที่ทำงานหารายได้คนนี้เป็นคนที่คอยสนับสนุนดูแลการเป็นอยู่ของพี่น้องอีกคน ด้วยของที่จำเป็นไม่ว่าจะเป็นอาหารและเครื่องดื่ม ดังนั้น คนที่ทำงานได้บ่นถึงพี่น้องของเขาให้ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ฟัง ว่าพี่น้องของตัวเองไม่ได้ช่วยเขาทำงานเลย ไม่ออกไปหารายได้ทำมาหากินกับเขา ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงได้กล่าวกับพี่น้องที่บ่นคนนี้ว่า "บางทีท่านอาจจะได้รับริซกีในชีวิตเพราะมีเขาเป็นเหตุก็ได้" นั่นคือ บางทีอัลลอฮ์ทรงทำให้เขาได้รับปัจจัยและริซกีต่างๆ ในการทำมาหากินเนื่องจากท่านคอยดูแลเขา ท่านคอยเป็นภาระในการสนับสนุนการดำรงชีวิต ค่าอาหารและเครื่องดื่มของเขา ดังนั้น บางทีเขาอาจเป็นเหตุผลสำหรับริซกีและชีวิตที่ดีของท่านก็เป็นได้ ด้วยเหตุนี้ อย่าได้ลำเลิกบุญคุณกับเขาเลย

แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นการสนับสนุนความเกียจคร้าน ให้งอมืองอเท้า และพึ่งแต่คนอื่น หะดีษนี้เป็นการอธิบายความเอื้อเฟื้อของอัลลอฮ์แก่บ่าวทั้งปวง เป็นการอธิบายว่าพระองค์คือผู้ค้ำจุนผู้ให้ริซกี และพระองค์คือผู้รับประกันริซกีของบ่าวคนหนึ่งตามที่ทรงประสงค์ ผ่านการดูแลของบ่าวอีกคนตามที่ทรงประสงค์เช่นกัน ดังนั้น คนรวยไม่ต้องลำเลิกบุญคุณกับคนจนในสิ่งที่ตนได้ให้เขาไป คนที่ดูแลหาเลี้ยงให้กับครอบครัวก็ไม่ต้องลำเลิกถึงหน้าที่ในการอุปการะพวกเขา

นอกจากนี้ ยังมีหะดีษมากมายที่กระตุ้นให้ทำงาน แสวงหารายได้ ไม่หวังพึ่งพาแบบงอมืองอเท้าไม่ยอมลงมือทำ ให้ปฏิบัติตามสิทธิและหน้าที่ในการเคารพภักดีอัลลอฮ์ รวมถึงสิทธิและหน้าที่ของตัวเองในการสำรวมตนไม่เที่ยวแบมือขอเงินเรี่ยไรจากผู้อื่น

ในหะดีษนี้ยังมีบทเรียนในด้านการส่งเสริมให้เกิดความสามัคคีและช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างผู้คน และการดูแลพึ่งพาอาศัยกันระหว่างพี่น้องร่วมสายเลือด



แปลจาก
https://dorar.net/hadith/sharh/78230