ฟังคุฏบะฮ์นี้ได้จาก YouTube
คุฏบะฮ์ - เราะมะฎอน ปลดปล่อยจากนรก - ซุฟอัม อุษมาน - YouTube
หรือบน SoundCloud
พี่น้องผู้ศรัทธาที่อัลลอฮ์รักทุกท่าน
เราอยู่ในเดือนเราะมะฎอน ตลอดทั้งเดือนอัลลอฮ์มีคำสั่งให้เราถือศีลอด
ซึ่งมีเป้าหมายของมัน เดือนเราะมะฎอนมีเป้าหมายหลายประการที่อัลลอฮ์ต้องการให้เราซึมซับในชีวิตของเรา
ยิ่งเข้าใกล้ช่วงสุดท้ายของเดือนก็ยิ่งต้องตรวจสอบตัวเองดูว่าเราได้บรรลุเป้าหมายอะไรไปบ้างแล้วกี่อย่าง
ตรวจสอบเป้าหมายของเราะมะฎอนตามที่ระบุจากหลักฐานต่างๆ ทั้งในอัลกุรอานและหะดีษ
ในอัลกุรอาน อัลลอฮ์
สุบหานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสว่า
﴿ يَٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُواْ كُتِبَ عَلَيۡكُمُ
ٱلصِّيَامُ كَمَا كُتِبَ عَلَى ٱلَّذِينَ مِن قَبۡلِكُمۡ لَعَلَّكُمۡ تَتَّقُونَ
183 ﴾ [البقرة: 183]
ความว่า “บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย!
การถือศีลอดนั้นได้ถูกบัญญัติแก่พวกเจ้าแล้ว
เช่นเดียวกับที่ได้ถูกกำหนดแก่บรรดาผู้คนก่อนหน้าพวกเจ้ามาก่อน เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้ยำเกรง”
(อัล-บะเกาะเราะฮ์ 183)
อัลลอฮ์สั่งให้เราถือศีลอดเพื่อให้เราเป็นผู้ที่มีความยำเกรง
มีความตักวา นี่คือเป้าหมายหนึ่งที่ระบุอยู่ในอัลกุรอาน
ถ้าในหะดีษของท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็มีกล่าวไว้ด้วย เช่น
«مَن صَامَ
رَمَضَانَ، إيمَانًا واحْتِسَابًا، غُفِرَ له ما تَقَدَّمَ مِن ذَنْبِهِ».
[الراوي: أبو هريرة، البخاري 38، مسلم 760]
ความว่า “ผู้ใดที่ถือศีลอดเราะมะฎอน
ด้วยความศรัทธาและบริสุทธิ์ใจหวังในความโปรดปรานของอัลลอฮ์
เขาจะได้รับการอภัยโทษจากบาปที่ผ่านมา” (รายงานจากอบู ฮุร็อยเราะฮ์
บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ 38 และมุสลิม 760)
ในหะดีษนี้บอกว่า ใครที่ถือศีลอดด้วยความศรัทธาและอิคลาศเพื่อความโปรดปรานและผลบุญจากอัลลอฮ์
พระองค์ก็จะอภัยโทษให้กับเขา นี่ก็เป็นเป้าหมายหนึ่งในเดือนเราะมะฎอน
พี่น้องครับ
ยังมีเป้าหมายอื่นๆ อีกหลายประการ
มีทั้งเป้าหมายรวมและเป้าหมายย่อย เป้าหมายรวมก็คือเพื่อจะได้มีความตักวา
ส่วนเป้าหมายย่อยก็อาจจะกล่าวได้ว่าเพื่อลบบาป เพื่อศึกษาอัลกุรอาน เพื่อปรับสมดุลร่างกายให้มีสุขภาพที่ดี
เพื่อร่วมสร้างสังคมที่สันติสุขด้วยการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
เพื่อขอสิ่งที่ตัวเองปรารถนาในคืนลัยละตุลก็อดร์ซึ่งเป็นคืนที่ดีที่สุดประเสริฐกว่าหนึ่งพันเดือน
ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้ คือ เป้าหมายต่างๆ
ที่มีอยู่ในเดือนเราะมะฎอน แต่ยังมีเป้าหมายหนึ่งที่สำคัญมากและไม่ควรมองข้าม
นั่นก็คือ เป้าหมายในการปลดตัวเองให้พ้นจากการเป็นชาวนรก
เพราะเป้าหมายนี้ก็ถูกพูดถึงในหะดีษของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
เช่นเดียวกันว่า
«وَلِلَّهِ عُتَقَاءُ مِنَ النَّارِ وَذَلِكَ
فِي كُلِّ لَيْلَةٍ» [الراوي: أبوهريرة، أخرجه الترمذي 682،
وابن ماجه 1642، صححه الألباني في صحيح ابن ماجه واللفظ له]
ความว่า
“สำหรับอัลลอฮ์นั้น มีผู้ที่พระองค์ปลดปล่อยพวกเขาให้พ้นจากนรก ซึ่งจะเกิดขึ้นทุกคืนของเราะมะฎอน”
(รายงานจากอบู ฮุร็อยเราะฮ์ บันทึกโดย อัต-ติรมิซีย์ 682 และ อิบนุ มาญะฮ์ 1642 อัล-อัลบานีย์วินิจฉัยว่าเศาะฮีห์
นี่เป็นสำนวนของอิบนุ มาญะฮ์)
อัลลอฮ์จะทรงปลดปล่อยบ่าวของพระองค์ในทุกค่ำคืนของเดือนเราะมะฎอนให้พ้นจากนรก
นี่ต้องเป็นเป้าหมายหนึ่งของเรา
ต้องมีความหวังว่าในจำนวนรายชื่อที่อัลลอฮ์จะลบออกจากรายชื่อชาวนรกนั้นต้องมีชื่อของเราด้วย
ตั้งไว้เป็นเป้าหมายสำหรับเดือนเราะมะฎอนนี้
ในรายงานอื่นที่เล่าจาก
อบู อุมามะฮ์ และ ญาบิร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา มีสำนวนว่า
«إنَّ
للهِ تعالى عند كلِّ فطرٍ عُتَقاءَ من النارِ، وذلك
في كلِّ ليلةٍ» [صحيح الجامع الصغير 2170، حديث حسن]
ความว่า
“แท้จริงแล้ว สำหรับอัลลอฮ์นั้น ณ เวลาละศีลอดทุกครั้ง จะมีผู้ที่พระองค์ปลดปล่อยให้พ้นจากนรก
และมันจะเกิดขึ้นทุกๆ คืนของเราะมะฎอน” (เศาะฮีห์ อัล-ญามิอฺ 2170
หะดีษหะสัน)
พี่น้องครับ
หากมีอะไรหลายๆ
อย่างที่เราอยากจะขอและปรารถนาอยากจะได้ในเดือนเราะมะฎอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับดุนยา
หรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง กับครอบครัว กับลูกหลาน เรื่องที่เกี่ยวข้องกับริซกี
อาชีพหรือธุรกิจ และกำไรอื่นๆ ในดุนยานี้ ได้โปรดให้มีอีกอย่างหนึ่ง
ให้มีเป้าหมายในการขอเพื่อให้เรารอดพ้นจากการเป็นชาวนรกอีกหนึ่งอย่างด้วย
ซึ่งนี่คือเป้าหมายสูงสุดเหนือเป้าหมายอื่นๆ ทั้งหมดที่เราขอก่อนหน้านี้
เหตุใดที่เราต้องขอให้พ้นจากนรก
เพราะมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ไม่มีใครที่สามารถทนทานต่อการลงโทษของอัลลอฮ์
สุบหานะฮูวะตะอาลา ในนรกได้
เราไม่สามารถขอร้องจากอัลลอฮ์เพื่อที่จะพักโทษในนรกได้แม้แต่นาทีเดียวก็ตาม
ขอลดการลงโทษก็ทำไม่ได้ หรือจะขอตายไปเลยให้มันสิ้นซากจะได้จบๆ
จากการลงโทษที่เจ็บปวดทรมานก็ยังทำไม่ได้ ใครที่เป็นชาวนรกโดยเฉพาะผู้ที่ต้องรับโทษในนรกตลอดกาล
พวกเขาจะไม่มีวันตายและไม่มีวันลดโทษ พระองค์อัลลอฮ์ตรัสว่า
﴿ وَٱلَّذِينَ كَفَرُواْ لَهُمۡ نَارُ جَهَنَّمَ
لَا يُقۡضَىٰ عَلَيۡهِمۡ فَيَمُوتُواْ وَلَا يُخَفَّفُ عَنۡهُم مِّنۡ عَذَابِهَاۚ كَذَٰلِكَ
نَجۡزِي كُلَّ كَفُورٖ 36 ﴾ [فاطر: 36]
ความว่า
“ส่วนบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา
พวกเขาจะได้รับไฟนรกญะฮันนัม (เป็นการตอบแทน) โทษนั้นจะไม่จัดการจนพวกเขาตาย ขณะเดียวกันมันก็จะไม่ถูกลดหย่อนแก่พวกเขาแม้แต่น้อย
เช่นนั้นแหละเราจะตอบแทนผู้ปฏิเสธศรัทธาทุกคน”
(ฟาฏิร 36)
รูปแบบต่างๆ
ของการลงโทษในนรกนั้นสามารถที่จะทำให้คนผู้หนึ่งตายได้เลยในวินาทีนั้น
แต่พระองค์ไม่ให้เขาตาย
เพื่อที่เขาจะได้รับการทรมานอย่างไม่สิ้นสุดซ้ำแล้วซ้ำอีกวนเวียนไปไม่จบสิ้น
วัลอิยาซุบิลลาฮ์มินซาลิก
﴿ وَقَالَ ٱلَّذِينَ فِي ٱلنَّارِ لِخَزَنَةِ جَهَنَّمَ ٱدۡعُواْ رَبَّكُمۡ يُخَفِّفۡ
عَنَّا يَوۡمٗا مِّنَ ٱلۡعَذَابِ 49 ﴾ [غافر: 49]
ความว่า
“และบรรดาผู้ที่ทรมานอยู่ในนรกจะกล่าวแก่ยามเฝ้าประตูนรกว่า
โปรดช่วยวิงวอนขอต่อพระเจ้าของพวกท่านให้ทรงลดหย่อนการลงโทษแก่เราสักวันหนึ่งเถิด”
(ฆอฟิร 49)
ดังนั้น
สิ่งที่เราต้องกำหนดเป็นเป้าหมายก็คือ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ฉันไม่ขอเป็นชาวนรก
ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้รับการลบชื่อออกจากการเป็นชาวนรก
ซึ่งสิ่งนี้จะเกิดขึ้นทุกค่ำคืนของเดือนเราะมะฎอน
พี่น้องครับ
การปลดปล่อยจากนรกในทุกค่ำคืนของเราะมะฎอนนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
มีคำอธิบายจากบรรดาอุละมาอ์ว่า การปลดปล่อยจากนรก คือการที่อัลลอฮ์อภัยโทษให้กับพวกเขา
ตอบรับอะมัลอิบาดะฮ์ของพวกเขา
ปกป้องพวกเขาไม่ให้ทำความผิดที่เป็นสาเหตุของการได้รับโทษในนรก ดังนั้น
จึงสนับสนุนให้มุ่งมั่นทำความดีต่างๆ
อย่างตั้งใจเพื่อจะได้เป็นผู้ที่บรรลุเป้าหมายความสำเร็จให้เป็นชาวสรรค์และพ้นจากการเป็นชาวนรก[1]
จะเห็นได้ว่า
เหตุแห่งการพ้นจากนรกในเดือนเราะมะฎอนนั้นมีมากมายเหลือเกิน อิบาดะฮ์ต่างๆ
ที่เราทำทั้งหมดคือมูลเหตุดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการถือศีลอด การละหมาดยามค่ำคืน
การอ่านอัลกุรอาน การบริจาคทาน การขอดุอาอ์ ฯลฯ อะมัลต่างๆ
ที่เราทำในเดือนเราะมะฎอน คือปัจจัยที่อัลลอฮ์จะลบบาปของเรา และตราบใดที่เราไม่มีบาปเราก็จะไม่ใช่ชาวนรกอีกต่อไป
รวมถึงการที่เราสามารถรักษาตัวเองไม่ให้ทำผิดบาปต่ออัลลอฮ์ในเดือนเราะมะฎอน
ด้วยบรรยากาศของเดือนนี้ที่ทำให้เรามีความตระหนักอย่างบริสุทธิ์ใจที่จะหลีกเลี่ยงไม่ทำบาป
ทำให้บาปของเราลดลงอย่างมาก นี่คือสภาพอันสวยงามของเดือนเราะมะฎอนที่พร้อมจะให้เราได้ประพฤติตนเป็นผู้รอดพ้นจากนรก
แม้กระทั่ง
ความประเสริฐของตัวการถือศีลอดเอง
ก็มีอานิสงค์โดยตรงต่อการป้องกันตัวเองให้พ้นจากไฟนรก ในหะดีษที่ท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า
«مَن صامَ يَوْمًا في سَبيلِ اللَّهِ،
بَعَّدَ اللَّهُ وجْهَهُ عَنِ النَّارِ سَبْعِينَ خَرِيفًا» [الراوي:
أبو سعيد الخدري، البخاري ،2840، مسلم، 1153]
ความว่า
“ผู้ใดก็ตามที่ถือศีลอดหนึ่งวันในหนทางของอัลลอฮ์ พระองค์จะทำให้ใบหน้าของเขาห่างไกลจากไฟนรกถึงเจ็ดสิบปี”
(รายงานจากอบู สะอีด อัล-คุดรีย์ บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ 2840
และ มุสลิม 1153)
การถือศีลอดเพื่อหนทางของอัลลอฮ์ในที่นี้
หมายถึง ด้วยความอิคลาศบริสุทธิ์ใจต่ออัลลอฮ์ เป็นการเชื่อฟังต่อคำสั่งของอัลลอฮ์ ไม่ใช่เพื่อโอ้อวดหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด[2]
อัลลอฮ์จะให้เขาห่างไกลจากนรกถึงเจ็ดสิบปีต่อหนึ่งวันที่เขาถือศีลอด อัลลอฮุอักบัร!
เรามีความจำเป็นต้องทำอะมัลอิบาดะฮ์
และทุกครั้งที่เราทำความดีใดๆ ขอให้ตระหนักอยู่เสมอว่า
สิ่งที่เราทำขอให้มันเป็นปัจจัยเพื่อให้เราพ้นจากนรก แม้กระทั่งแค่การบริจาคเล็กๆ
น้อยๆ เท่ากับซีกเดียวของผลอินทผลัมก็ตาม ในหะดีษที่ท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม พูดถึงวันกิยามะฮ์ที่บ่าวจะต้องเจอกับอัลลอฮ์โดยไม่มีล่ามแปล
พระองค์ถามเขาว่าเหตุใดบ่าวจึงไม่บริจาค ทั้งๆ ที่พระองค์ประทานความมั่งคั่งให้มากมายจนสุดท้ายเขาต้องเข้านรก
ในตอนท้ายหะดีษท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงสั่งให้บรรดาเศาะหาบะฮ์หมั่นบริจาคเพื่อให้ตัวเองพ้นจากนรกแม้ด้วยซีกเดียวของอินทผลัมก็ตาม
«اتَّقُوا النَّارَ ولو بشِقَّةِ
تَمْرَةٍ، فمَن لَمْ يَجِدْ شِقَّةَ تَمْرَةٍ فَبِكَلِمَةٍ طَيِّبَةٍ» [الراوي:
عدي بن حاتم، البخاري، 3595، مسلم، 1016]
ความว่า
“จงป้องกันตัวเองจากนรกแม้ด้วยการบริจาคอินทผลัมแค่ซีกเดียว ใครที่ไม่มีอินผลัมแค่ซีกเดียวก็จงให้ทานด้วยคำพูดที่ดี”
(รายงานจากอะดีย์ บิน หาติม บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ 3595 และมุสลิม 1016)[3]
การบริจาคด้วยอินทผลัมแค่ซีกเดียวก็เป็นเหตุให้ป้องกันจากไฟนรกได้
มาชาอ์อัลลอฮ์
ในวันกิยามะฮ์มนุษย์จะต้องเดินข้ามสะพานศิรอฏที่พาดผ่านนรก
แต่ละคนจะมีสภาพการเดินผ่านที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับระดับอะมัลความดีที่ได้ทำไว้
บางคนผ่านไปได้เร็วดั่งสายฟ้าแลบ บางคนเหมือนขี่ม้า บางคนต้องเดิน บางคนต้องคลาน และบางคนก็ไม่รอด
เพราะนรกจะคอยตะครุบคนที่เดินผ่านจากบรรดาคนที่ต้องรับโทษให้ตกลงไปจากสะพาน
ดังนั้น การป้องกันตัวเองให้พ้นจากนรกจึงเป็นภารกิจที่สำคัญมากสำหรับพวกเราทุกคน ท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงสั่งเสียให้ป้องกันตัวเองนรก
แม้ด้วยการบริจาคเพียงแค่อินผลัมครึ่งเม็ด
มีความหมายเพิ่มเติมที่สามารถขยายความได้
จากหะดีษของท่านหญิงอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา วันหนึ่ง มีผู้หญิงยากจนคนหนึ่งมาขอรับอาหารที่บ้านของนาง
มาพร้อมกับลูกสาวสองคน ท่านหญิงให้อินทผลัมไปคนละเม็ด
ลูกสาวสองคนเมื่อกินอินทผลัมของตนหมดแล้วยังไม่พอ
ผู้เป็นแม่ที่กำลังจะหยิบอินทผลัมเข้าปากของตัวเอง จำใจต้องแบ่งลูกสุดท้ายที่เหลือเป็นสองซีกมอบให้กับลูกสาวทั้งสองคนละซีก
ท่านหญิงอาอิชะฮ์รู้สึกตื้นตันใจที่ได้เห็น และเล่าเรื่องนี้ให้ท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้รับฟัง ท่านนบีบอกกับนางว่า
«إنَّ اللَّهَ قدْ أَوْجَبَ لَهَا بهَا الجَنَّةَ،
أَوْ أَعْتَقَهَا بهَا مِنَ النَّارِ» [الراوي: عائشة أم المؤمنين، مسلم 2630]
ความว่า
“แท้จริงแล้ว อัลลอฮ์ได้กำหนดสวรรค์ไว้ให้แก่นางแล้ว หรือพระองค์ได้ปลดปล่อยนางให้พ้นจากนรกแล้ว”
(บันทึกโดยมุสลิม 2630)
มาชาอ์อัลลอฮ์
การทำเรื่องที่ดูเล็กๆ น้อยๆ นี้ แต่ยิ่งใหญ่เหลือเกินในสายตาของอัลลอฮ์
สุบหานะฮูวะตะอาลา
นี่คือตัวอย่างที่เราทำได้
แน่นอนที่สุด ในเดือนเราะมะฎอนมีอะมัลมากมายที่เราทำได้เพื่อเข้าหาอัลลอฮ์
สุบหานะฮูวะตะอาลา และเป็นเหตุให้เราได้รอดพ้นจากไฟนรกในวันอาคิเราะฮ์ อามีน
ยาร็อบบัลอาละมีน
พี่น้องผู้ศรัทธาทุกท่าน
ในก็ตามที่มีคำปฏิญาณ ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์
เขาก็จะได้เป็นชาวสวรรค์ อินชาอ์อัลลอฮ์ แม้ว่าบางคนอาจจะต้องผ่านนรกก่อนก็ตาม
วัลอิยาซุบิลลาฮ์มินซาลิก นี่เป็นข้อเท็จจริงที่เราต้องให้สมดุลระหว่างความหวังและความกลัว
ความหวังก็คือ
ทุกคนที่มีคำปฏิญาณ ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์ จะได้เข้าสวรรค์ ความกลัวก็คือ
บางทีเราอาจจะต้องเข้านรกก่อนเพราะบาปที่เราทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ต้องการ
เราไม่เอาสภาพที่ต้องเข้านรกก่อนที่จะเข้าสวรรค์ เราขอให้ได้เข้าสวรรค์เลยโดยไม่ต้องผ่านนรก
เพราะฉะนั้น
อัลลอฮ์ สุบหานะฮูวะตะอาลา และท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
จึงได้สอนเราให้ขอดุอาอ์ มีดุอาอ์อะไรบ้างที่จะทำให้เรานั้นพ้นจากนรก?
มีเยอะแยะมากมาย และบางทีหากเราไม่รู้ดุอาอ์ที่เป็นตัวบทภาษาอาหรับ
เราก็ยังสามารถขอด้วยภาษาที่เราเข้าใจเองได้ เมื่อรู้แล้วว่าพระองค์อัลลอฮ์จะปลดปล่อยบ่าวของพระองค์ให้พ้นจากนรกทุกวันของเดือนเราะมะฎอน
เราก็ขอจากพระองค์ได้เลยด้วยภาษาที่เราเข้าใจว่า โอ้ อัลลอฮ์ ได้โปรดให้ฉันพ้นจากนรกด้วยเถิด
ได้โปรดปลดปล่อยพ่อแม่ของฉัน ครอบครัวของฉัน ลูกหลานของฉัน ให้พ้นจากไฟนรกด้วยเถิด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาละศีลอดตามที่ปรากฏในหะดีษก่อนหน้านี้
และหนึ่งในดุอาอ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือ
ดุอาอ์ที่ปรากฏในอัลกุรอานว่า
﴿رَبَّنَآ ءَاتِنَا فِي ٱلدُّنۡيَا حَسَنَةٗ
وَفِي ٱلۡأٓخِرَةِ حَسَنَةٗ وَقِنَا عَذَابَ ٱلنَّارِ 201﴾ [البقرة: 201]
ความว่า
“โอ้ พระผู้อภิบาลของเรา ได้โปรดประทานความดีงามแก่เราในโลกดุนยานี้ และประทานความดีงามแก่เราในวันอาคิเราะฮ์
และขอทรงปกป้องเราให้พ้นจากนรกด้วยเถิด” (อัล-บะเกาะเราะฮ์ 201)
เพราะฉะนั้น
พี่น้องครับ ได้โปรดเป็นห่วงตัวเอง
เป็นห่วงคนที่เรารักด้วยการขอดุอาอ์ให้เราทุกคนปลอดภัยจากนรก ในเดือนเราะมะฎอน ในช่วงเวลาที่ประเสริฐที่สุดของปี
[1] ดูเพิ่มเติมจาก
t.ly/Swl-S
[2] ดูเพิ่มเติมจาก
t.ly/qD_Am และ t.ly/gm4c2
[3] ดูหะดีษฉบับเต็มได้จาก
t.ly/5GUOO