อัลฮัมดุลิลลาฮ์ ชุโกรขอบคุณต่ออัลลอฮ์สำหรับทุกอย่างที่พระองค์ให้กับเราในชีวิต
สำหรับริซกีทั้งที่เรามองเห็นและมองไม่เห็น อัลลอฮ์ สุบหานะฮูวะตะอาลา
เป็นผู้ประทานและกำหนดมันให้กับเรามาทั้งสิ้น
มีหะดีษบทหนึ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับเราในสังคมที่เราต้องวุ่นวายกับการแสวงหาริซกีในสภาวะปัจจุบัน
เป็นหะดีษที่รายงานโดยอบู ฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ ท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า
«لَيَأْتِيَنَّ عَلَى النَّاسِ
زَمانٌ، لَا يُبَالِي المَرْءُ بِمَا أخَذَ الـمَالَ، أَمِنْ حَلَالٍ أَمْ مِنْ
حَرَامٍ» [البخاري، رقم: 2083]
ความว่า “จะมียุคสมัยหนึ่งมาถึงผู้คน
บุคคลหนึ่งจะไม่สนใจว่าเขาได้ทรัพย์สินมาด้วยวิธีไหน
ได้มาจากสิ่งที่หะลาลหรือได้มาจากสิ่งที่หะรอม” (อัล-บุคอรีย์ 2083)
นี่เป็นหนึ่งในสัญญาณวันกิยามะฮ์
ที่คนจะไม่สนใจวิธีการแสวงหาริซกีและการหาเงิน หะลาลก็เอาหะรอมก็เอา ปรากฏการณ์แห่งยุคสมัยที่เราเห็นทุกวันนี้
ไม่มีบิดเบี้ยวไปจากหะดีษข้างบนเลยแม้แต่น้อย สุบหานัลลอฮ์
พี่น้องครับ
จริงๆ
แล้ว เป็นสิ่งที่อัลลอฮ์กำหนดไว้แล้วตั้งแต่เรายังไม่เกิด
ดังนั้น จึงอย่าได้มีความรู้สึกว่าทำไมเรามีทรัพย์สินน้อยเหลือเกิน
ทำไมเราได้ริซกีล่าช้า แล้วเราก็พยายามที่จะรีบร้อนหาเงินและริซกีด้วยวิธีการต่างๆ
โดยไม่สนใจว่ามันจะเป็นวิธีการที่ถูกหรือผิด
ในอีกหะดีษหนึ่งที่รายงานโดยญาบิร
บิน อับดุลลอฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา
«لَا تَسْتَبْطِئُوْا الرِّزْقَ، فَإِنَّهُ لَنْ يَمُوْتَ الْعَبْدُ
حَتَّى يَبْلُغَهُ آخِرُ رِزْقٍ هُوَ لَهُ، فَأَجْمِلُوْا فِـيْ الطَّلَبِ:
أَخْذِ الْحَلَاْلِ وَتَرْكِ الْحَرَامِ» [تخريج صحيح ابن حبان، رقم: 3239، صححه
الأرناؤوط على شرط مسلم]
ความว่า
“อย่าได้รู้สึกว่าริซกีนั้นมาช้า เพราะบ่าวคนหนึ่งจะไม่มีวันเสียชีวิต จนกว่าริซกีอันสุดท้ายที่เป็นของเขาจะมาให้เขาได้ใช้
ดังนั้น จงแสวงหาริซกีให้ดี ด้วยการรับเอาสิ่งที่หะลาล และละทิ้งสิ่งที่หะรอม” (ตัครีจญ์
เศาะฮีห์ อิบนุ หิบบาน 3239 เป็นหะดีษเศาะฮีห์ตามเงื่อนไขของมุสลิม)
ตราบใดที่ริซกีของเรายังไม่หมด ชีวิตของเราก็จะไม่มีวันสิ้นสุดไปจากโลกนี้
เราทุกคนจะได้ใช้ริซกีที่อัลลอฮ์กำหนดมาให้เราหมดจนชิ้นสุดท้ายไม่เหลือไว้ก่อนที่จะเสียชีวิตจากดุนยานี้ไป
ดังนั้น หน้าที่ของเราก็คือแสวงหามันด้วยวิธีที่ถูกต้อง
ด้วยวิธีการที่หะลาล อย่าแหกกฎในการแสวงหาริซกีด้วยวิธีการที่หะรอม
รับริซกีเฉพาะที่หะลาล อะไรที่หะรอมต้องเอาออกไป
พี่น้องครับ
ริซกี
ทรัพย์สิน และเงินทอง ที่หะรอมอันตรายอย่างไรสำหรับเรา ท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า
« لا يدخُلُ الجنَّةَ لَحْمٌ نَبَتَ من
سُحْتٍ؛ النَّارُ أَوْلى به» [الكبائر للذهبي، رقم 223، صحيح على شرط الشيخين]
ความว่า
“จะไม่ได้เข้าสวรรค์ เลือดเนื้อที่เติบโตเกิดมาจากการบริโภคสิ่งที่หะรอม
นรกนั้นย่อมคู่ควรกับเขามากกว่า” (อัล-กะบาอิร ของ อัซ-ซะฮะบีย์ 223 หะดีษเศาะฮีห์ตามเงื่อนไขอัล-บุคอรีย์และมุสลิม)
นี่คืออันตรายของการใช้ทรัพย์สินที่หะรอมในการดำรงชีวิต
ในหะดีษอีกบทหนึ่ง รายงานโดยท่านอบู ฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ ท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้สอนผู้คนไว้ว่า
«أَيُّها النَّاسُ، إنَّ اللهَ طَيِّبٌ لَا يَقْبَلُ إلَّا
طَيِّبًا، وإنَّ اللهَ أمَرَ المُؤْمِنِينَ بِمَا أمَرَ بِهِ الـْمُرْسَلِينَ، فَقَالَ:
﴿يَٰٓأَيُّهَا
ٱلرُّسُلُ كُلُواْ مِنَ ٱلطَّيِّبَٰتِ وَٱعۡمَلُواْ صَٰلِحًاۖ إِنِّي بِمَا تَعۡمَلُونَ
عَلِيمٞ 51﴾ [المؤمنون: 51] ، وَقَالَ: ﴿كُلُواْ
مِن طَيِّبَٰتِ مَا رَزَقۡنَٰكُمۡۚ﴾
[البقرة: 57]،
ثُمَّ ذَكَرَ الرَّجُلَ يُطِيلُ السَّفَرَ أشْعَثَ أغْبَرَ، يَمُدُّ يَدَيْهِ إِلَى
السَّمَاءِ، يَا رَبِّ، يَا رَبِّ، وَمَطْعَمُهُ حَرَامٌ، ومَشْرَبُهُ حَرَامٌ،
ومَلْبَسُهُ حَرَامٌ، وغُذِيَ بِالْحَرَامِ، فَأَنَّى يُسْتَجَابُ لِذَلِكَ؟!»
[مسلم رقم: 1015]
ความว่า
“ผู้คนทั้งหลาย แท้จริงอัลลอฮ์ทรงเป็นเลิศพระองค์จะรับเฉพาะสิ่งที่ดีเท่านั้น
พระองค์สั่งบรรดาผู้ศรัทธาเหมือนกับที่เคยสั่งบรรดาศาสนทูตมาก่อนแล้ว
พระองค์ตรัสว่า
﴿يَٰٓأَيُّهَا ٱلرُّسُلُ كُلُواْ مِنَ ٱلطَّيِّبَٰتِ
وَٱعۡمَلُواْ صَٰلِحًاۖ إِنِّي بِمَا تَعۡمَلُونَ عَلِيمٞ 51﴾ [المؤمنون: 51]
ความหมาย
“โอ้ ศาสนทูตทั้งหลาย จงบริโภคจากสิ่งดีๆ และจงประกอบการงานที่ดี
แท้จริงแล้วข้ารู้สิ่งที่พวกเจ้ากระทำ” (อัล-มุอ์มินูน 51)
และยังตรัสอีกว่า
﴿كُلُواْ مِن طَيِّبَٰتِ مَا رَزَقۡنَٰكُمۡۚ﴾ [البقرة: 57]
ความหมาย
“จงบริโภคจากสิ่งที่ดีซึ่งเราได้ประทานให้กับพวกเจ้า” (อัล-บะเกาะเราะฮ์ 57)
หลังจากนั้นท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็ได้เอ่ยถึงผู้ชายคนหนึ่งที่เดินทางรอนแรมมายาวนาน
ผมเผ้ายุ่งเหยิงเนื้อตัวเต็มไปด้วยฝุ่น เขายกสองมือขอดุอาอ์ไปยังฟ้าเบื้องบนว่า ยา
ร็อบบี ยา ร็อบบี (โอ้ พระเจ้าของฉัน โอ้ พระเจ้าของฉัน) ในขณะที่อาหารของเขานั้นหะรอม
เครื่องดื่มของเขาก็หะรอม เสื้อผ้าของเขาก็หะรอม เขาเติบโตมาด้วยของหะรอม
แล้วดุอาอ์ของเขาจะถูกตอบรับจากอัลลอฮ์ได้อย่างไร?” (มุสลิม 1015)
ผู้ชายคนนี้มีปัจจัยที่อัลลอฮ์จะตอบรับดุอาอ์อยู่ในตัวเขา
นั่นคือ เป็นคนเดินทาง เป็นคนยากจนข้นแค้น ยกมือไปยังอัลลอฮ์บนฟ้า และยังร้องขอว่า
ยา ร็อบบี แต่ว่าปัจจัยทั้งหมดนั้นไม่มีประโยชน์สำหรับเขา เพราะมีอุปสรรค์กีดขวางการตอบรับดุอาอ์อยู่
นั่นก็คือการบริโภคสิ่งที่หะรอม สาเหตุข้อนี้ลบปัจจัยการตอบรับดุอาอ์ข้างต้นจนหมดสิ้น
วัลอิยาซุบิลลาฮ์มินซาลิก
นี่เป็นอันตรายของทรัพย์สินและเงินทองที่หะรอม
พี่น้องครับ
ทรัพย์สินที่หะรอมในอิสลาม
จะย้อนกลับไปที่รากฐานสามข้อ ตามที่นักวิชาการมุสลิมได้ประมวลเอาไว้ ดังนี้
(ดูการอ้างอิงได้จาก bit.ly/42ui610)
หนึ่ง ทรัพย์สินที่ได้มาจากของหะรอมตามบทบัญญัติ
เช่น การขายเหล้าเบียร์ สุกร เลือด หรือได้มาจากพฤติกรรมที่หะรอมเช่น ลักขโมย ปล้น
หรือได้มาจากธุรกรรมต้องห้าม เช่น การซื้อขายในมัสยิด การขายตัดราคา
การขายสินค้าที่กักตุนโดยไม่เป็นธรรม เป็นต้น
สอง ทรัพย์สินที่ได้มาจากการหลอกลวงหรือที่เรียกว่า
“เฆาะร็อร” มีความไม่ชัดเจน มีลักษณะคล้ายการเสี่ยงทาย การสุ่มสินค้า
การพนันได้เสีย การโฆษณาชวนเชื่อเกินจริง สินค้าไม่ตรงปก เป็นต้น
สาม
ทรัพย์สินที่ได้มาจากดอกเบี้ยและธุรกรรมปลีกย่อยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
พี่น้องทุกท่าน
มีคำพูดจากอุละมาอ์ในอดีตเช่นท่าน
มาลิก บิน ดีนาร์ ท่านกล่าวว่า
"لَأَنْ يَتْرُكَ
الرَّجُلُ دِرْهَمًا حَرَامًا خَيْرٌ لَهُ مِنْ أَنْ يَتَصَدَّقَ بِمِئَةِ أَلْفِ
دِرْهَم". [المجالسة وجواهر العلم: 5/126]
ความหมายก็คือ
การที่บุคคลละทิ้งหนึ่งดิรฮัมที่หะรอม ก็ยังดีกว่าการที่เขาบริจาคแสนดิรฮัมที่หะลาล
(อัล-มุญาละสะฮ์ วะ ญะวาฮิร อัล-อิลม์ 5/126)
สุบหานัลลอฮ์
ระหว่างการบริจาคเป็นแสนเป็นล้านจากเงินที่หะลาลซึ่งได้รับผลบุญจากอัลลอฮ์ แต่กลับบริโภคสิ่งที่หะรอมแค่เล็กน้อยก็ยังน่ากลัวกว่า
ดังนั้น การละทิ้งสิ่งที่หะรอมแค่ชิ้นเดียวยังสำคัญกว่า เพราะในที่สุดแล้ว
สิ่งที่หะรอมก็จะกลายเป็นเหตุให้ต้องรับโทษในไฟนรก วัลอิยาซุบิลลาฮ์
เพราะฉะนั้น
จำเป็นที่เราต้องเอาสิ่งที่หะรอมออกไปจากตัวเราก่อน พร้อมๆ
กับการที่เราพยายามแสวงหาสิ่งที่หะลาลมาใช้เป็นริซกีของเรา
عَنْ أَبِي بَرْزَةَ الأَسْلَمِيِّ، قَالَ: قَالَ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: «لَا تَزُوْلُ قَدَمَا عَبْدٍ يَوْمَ القِيَامَةِ حَتَّى يُسْأَلَ عَنْ عُمُرِهِ فِيمَا أَفْنَاهُ، وَعَنْ عِلْمِهِ فِيمَ فَعَلَ، وَعَنْ مَالِهِ مِنْ أَيْنَ اكْتَسَبَهُ وَفِيمَ أَنْفَقَهُ، وَعَنْ جِسْمِهِ فِيمَ أَبْلَاهُ» [رواه الترمذي، رقم: 2417، وقال: هَذَا حَدِيثٌ حَسَنٌ صَحِيحٌ].
ความว่า
จากอบู บัรซะฮ์ อัล-อัสละมีย์ เล่าว่า ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
ได้กล่าวว่า “สองเท้าของบ่าวจะไม่เขยื้อนไปไหนในวันกิยามะฮ์
จนกว่าเขาจะถูกสอบสวนด้วยคำถามสี่ข้อ คือ อายุในการมีชีวิตของเขาใช้ทำอะไรบ้าง?
ความรู้ที่เขาเรียนมาใช้ทำอะไรบ้าง? ทรัพย์สินของเขาได้มาจากไหนและใช้จ่ายไปเพื่ออะไรบ้าง?
และร่างกายของเขาถูกใช้เพื่อเรื่องใดบ้าง?” (บันทึกโดย อัต-ติรมิซีย์ 2417
เป็นหะดีษ หะสัน เศาะฮีห์)
พึงตระหนักเสมอว่า
ทรัพย์สินของเราไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือมากมาย ทั้งหะลาลและหะรอม จะต้องถูกสอบสวนจากอัลลอฮ์
สุบหานะฮูวะตะอาลา อย่างไม่มีวันหลีกพ้นได้
พี่น้องทั้งหลายครับ
พึงตักวาต่ออัลลอฮ์เถิด
จงแสวงหาริซกีที่ดีและพยายามหลีกเลี่ยงริซกีที่หะรอม ต้องเรียนรู้ว่าอะไรคือริซกีที่หะลาลและอะไรคือริซกีที่หะรอม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่อะไรๆ ก็อยู่ในโลกออนไลน์
มีทั้งสินเชื่อออนไลน์ กู้เงินออนไลน์ ชิงโชคออนไลน์ พนันออนไลน์ ลงทุนออนไลน์ หวยออนไลน์
ฯลฯ ยุคของเทคโนโลยีที่ทำให้การกระจายของเงินหะรอมรวดเร็วเหลือเกิน สารพัดออนไลน์ในชีวิตที่บางครั้งเราตามไม่ทันและมาหาเราเองโดยไม่ต้องออกไปหาข้างนอก
มันเด้งเข้ามาเองในโทรศัพท์ของเราหรืออุปกรณ์ของเรา โดยไม่ทันรู้ตัว
ถ้าหากเรามีความรู้สึกว่าริซกีที่หะลาลมีน้อยเหลือเกิน
มาช้าเหลือเกิน ในขณะที่ริซกีหะรอมมันยั่วเราเหลือเกิน มันมีเยอะเหลือเกิน
มันพร้อมที่จะให้เราเข้าไปเอาไปใช้ได้ทุกเมื่อ
ขอให้เราได้ขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮ์ทันที มีดุอาอ์ที่ช่วยให้เราได้ตระหนักในการแสวงหาริซกีที่หะลาลและหลีกเลี่ยงริซกีที่หะรอม
เป็นหะดีษที่รายงานโดยอะลีย์ บิน ฏอลิบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ ว่า
أنَّ
مُكَاتِبًا جَاءَهُ فَقَالَ: إنِّي قَدْ عَجِزْتُ عَنْ مُكَاتَبَتِيْ فَأَعِنِّيْ،
قالَ: أَلَا أُعَلِّمُكَ كَلِمَاتٍ عَلَّمَنِيْهِنَّ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ
عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لَوْ كَاْنَ عَلَيْكَ مِثْلُ جَبَلِ صِيْرٍ دَيْنًا أَدَّاْهُ
اللَّهُ عَنكَ، قالَ: قُل: «اللَّهُمَّ اكْفِنِيْ بِحَلَالِكَ عَنْ حَرَامِكَ، وَأَغْنِنِيْ
بِفَضْلِكَ عَمَّنْ سَوَاكَ». [صحيح الترمذي للألباني: 3563، حديث حسن]
ความว่า
มีทาสที่กำลังทำงานไถ่ตัวเองคนหนึ่งมาหาท่านอะลีย์และพูดกับท่านว่า ฉันรู้สึกอ่อนแอในการที่จะหาเงินมาไถ่ตัวเองจากเจ้านาย
ขอท่านได้โปรดช่วยฉันหน่อยเถิด ท่านอะลีย์พูดกับเขาว่า เอาไหมถ้าหากฉันจะบอกดุอาอ์ให้
เป็นดุอาอ์ที่ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เคยสอนฉัน
แม้นว่าท่านจะมีหนี้เป็นกองพะเนินเท่ากับภูเขา “ศีร” (แห่งเมืองฏ็อยย์หรือเมืองเยเมน)
อัลลอฮ์ก็จะช่วยให้ท่านมีทางออกได้รับริซกีที่จะใช้หนี้นั้นให้หมดไป
ท่านจงกล่าวดุอาอ์นี้เถิด
«اللَّهُمَّ اكْفِنِيْ بِحَلَالِكَ عَنْ حَرَامِكَ، وَأَغْنِنِيْ
بِفَضْلِكَ عَمَّنْ سَوَاكَ»
คำอ่าน
อัลลอฮุมักฟินี บิหะลาลิกะ อัน หะรอมิก, วะ อัฆนินี บิฟัฎลิกะ อัมมัน สิวากะ
ความหมาย
โอ้ อัลลอฮ์ ได้โปรดประทานปัจจัยของพระองค์ที่หะลาลอย่างเพียงพอโดยไม่ต้องพึ่งสิ่งที่หะรอมอีก
ขอพระองค์ทำให้ฉันได้รับความมั่งมีของพระองค์โดยไม่ต้องพึ่งพิงผู้อื่นอีกเลย (รายงานโดยอัต-ติรมิซีย์
และอัล-อัลบานีย์วินิจฉัยว่าเป็นหะดีษหะสัน ในเศาะฮีห์ อัต-ติรมิซีย์ 3563)
ดังนั้น
หากจะหนีจากสิ่งหะรอมก็ให้เราขอสิ่งที่หะลาลจากอัลลอฮ์ จงยำเกรงต่ออัลลอฮ์ และแสวงหาริซกีที่หะลาลด้วยวิธีการที่ถูกต้อง
แล้วเราจะปลอดภัยทั้งในดุนยานี้และอาคิเราะฮ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
- สงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นใดๆ ก็ตามที่พิจารณาว่าไม่เหมาะควร -
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น