ฟังคุฏบะฮ์นี้ได้จาก YouTube
คุฏบะฮ์ - ไกด์ไลน์ชีวิต - ซุฟอัม อุษมาน (youtube.com)
หรือบน SoundCloud
Stream คุฏบะฮ์ - ไกด์ไลน์ชีวิต - ซุฟอัม อุษมาน by e-Daiyah | Listen online for free on SoundCloud
พี่น้องผู้ศรัทธาที่อัลลอฮ์รักและเมตตาทุกท่าน
ทุกครั้งเมื่อถึงต้นปีหรือวาระที่จะเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ
เรามักจะนึกถึงการทบทวนและการวางแผน คนทำงานบริษัทหรือในองค์กรต่างๆ ก็จะวางแผนว่ามีโครงการหรือเป้าหมายอะไรสำหรับปีนี้
คนทำธุรกิจก็วางแผนว่าจะทำยอดเท่าไรให้บรรลุเป้าหมายในปีหน้า เป็นต้น การทำงานและการทำธุรกิจต้องมีไกด์ไลน์และเป้าหมาย
คำถามก็คือ แล้วในชีวิตของเรามีไกด์ไลน์และมีเป้าหมายหรือไม่ เวลาที่เราวางแผนเรื่องดุนยา
ก็อย่าละเลยหรือพลาดโอกาสที่จะวางแผนเรื่องอาคิเราะฮ์ด้วย
หากเราไม่รู้ว่าชีวิตของเราทั้งชีวิตควรจะวางแผนอะไรและกำหนดเป้าหมายอย่างไรบ้าง
เป็นมุสลิมมีภารกิจอะไรที่ต้องทำ ให้มาฟังคำแนะนำจากอัลกุรอานซึ่งเป็นคู่มือหรือไกด์ไลน์ชีวิตที่อัลลอฮ์ประทานให้กับเรา
คัมภีร์อัลกุรอานที่มีเรื่องมหัศจรรย์มากมาย และแน่นอนต้องมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของมนุษย์อย่างไม่ต้องสงสัย
หนำซ้ำอัลกุรอานนั้นถูกประทานลงมาเพื่อให้คำแนะนำแก่มนุษย์โดยแท้
พี่น้องครับ
ในสูเราะฮ์สั้นๆ อย่างสูเราะฮ์ อัล-อัศร์ อัลลอฮ์ สุบหานะฮูวะตะอาลา ได้ให้คำแนะนำแก่มนุษย์เอาไว้อย่างกระชับและเข้าใจง่ายมากๆ
พระองค์ตรัสว่า
﴿ وَٱلۡعَصۡرِ 1 إِنَّ ٱلۡإِنسَٰنَ لَفِي خُسۡرٍ
2 إِلَّا ٱلَّذِينَ ءَامَنُواْ وَعَمِلُواْ ٱلصَّٰلِحَٰتِ وَتَوَاصَوۡاْ بِٱلۡحَقِّ
وَتَوَاصَوۡاْ بِٱلصَّبۡرِ 3 ﴾
[العصر: 1، 3]
ความว่า “ขอสาบานด้วยกาลเวลา แท้จริง มนุษย์นั้นอยู่ในความขาดทุน
ยกเว้นบรรดาผู้ที่ศรัทธาและทำความดีทั้งหลาย และพวกเขาก็สั่งเสียซึ่งกันและกันด้วยสัจธรรม
และส่งกำลังใจซึ่งกันและกันให้มีความอดทน” (อัล-อัศร์ 1-3)
จากสูเราะฮ์สั้นๆ ที่มีแค่สามอายะฮ์นี้ อัลลอฮ์ประกาศอย่างชัดเจนว่า
เวลาซึ่งหมายถึงชีวิตของมนุษย์นั้น มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนและไม่มีคุณค่าใดๆ เลย
ถ้าหากเขาปล่อยให้มันผ่านไปแต่ละวันเรื่อยๆ โดยไร้เป้าหมายและการวางแผนตามคู่มือการใช้ชีวิตที่ควรเป็น
เวลาของเราและอายุขัยของเราจะลดลงไปเรื่อยๆ ปัจจัยต่างๆ ในชีวิตก็มีแต่จะน้อยลงไม่มีอะไรเพิ่มขึ้นถ้าหากเราไม่มีการคิดอย่างจริงจังว่าจะเพิ่มพูนสิ่งดีๆ
ในชีวิตอย่างไร อัลลอฮ์ สุบหานะฮูวะตะอาลา ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า หนทางที่จะทำให้มนุษย์รอดพ้นจากความทุนในชีวิตนี้
มีสี่ประการ ดังนี้
หนึ่ง อีมาน หรือความศรัทธา การศรัทธาต่ออัลลอฮ์และหลักการศรัทธาทั้งหมดหกประการ คือกุญแจดอกแรกที่จะไขให้มนุษย์ก้าวเข้าสู่ความสำเร็จในชีวิต
หากไม่มีความศรัทธาก็ไร้ปัจจัยสำคัญสำหรับการเข้าถึงความดีงามที่อัลลอฮ์เตรียมไว้ให้เขาในวันอาคิเราะฮ์
การศรัทธาหรืออีมาน ต้องได้มาด้วยการเรียนรู้และศึกษา เรียนรู้ชีวิต เรียนรู้ศาสนา
เรียนอิสลามตามที่อัลลอฮ์ประทานลงมาในอัลกุรอาน และที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
ได้สอนไว้ในสุนนะฮ์ของท่าน
ท่านอิมาม อัล-บุคอรีย์ ได้เรียบเรียงตำราหะดีษของท่าน
และตั้งชื่อบทหนึ่งไว้ว่า
"باب العلم قبل القول والعمل؛ لقول
الله- تعالى-:"فاعلم أنه لا إله إلا الله" [محمد: 19] فبدأ بالعلم". [الباب العاشر من كتاب العلم من صحيح البخاري].
บทว่าด้วยการมีความรู้ก่อนจะพูดหรือจะทำ ดังที่อัลลอฮ์ได้ตรัสความว่า “พึงทราบเถิดว่า
พระองค์คือผู้ที่ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์” พระองค์เริ่มด้วยความรู้ก่อน
(บทที่สิบจากภาคว่าด้วยความรู้จากตำราหะดีษเศาะฮีห์อัล-บุคอรีย์)
สอง การทำอะมัล การลงมือทำความดีต่างๆ
การปฏิบัติความดีหลังจากมีความศรัทธาและได้เรียนรู้มาแล้ว
คือเครื่องพิสูจน์ว่าการศรัทธาของเราเป็นศรัทธาที่แท้จริงหรือศรัทธาที่หลอกลวง เพราะการศรัทธาไม่ได้อยู่ที่แค่การพูดหรือกล่าวอ้างลอยๆ
แต่ต้องพิสูจน์ให้เป็นจริงด้วยการลงมือปฏิบัติ เหมือนที่อัล-หะสัน อัล-บัศรีย์
ได้บอกว่า
لَيْسَ الْإِيمَانُ بِالتَّحَلِّي
وَلَا بِالتَّمَنِّي؛ وَلَكِنْ مَا وَقَرَ فِي الْقَلْبِ وَصَدَّقَتْهُ الْأَعْمَالُ.
[مجموع الفتاوى 7/294]
ความว่า ความศรัทธานั้นไม่ได้อยู่ที่ตบแต่งภายนอกหรือกล่าวอ้างแบบลมๆ
แล้งๆ แต่มันคือสิ่งที่ปักรากฐานอยู่ในใจ และพิสูจน์ให้เป็นจริงด้วยการกระทำ
(มัจญ์มูอฺ อัล-ฟะตาวา 7/294)
อัลลอฮ์ได้ตรัสถึงเป้าหมายที่พระองค์ได้ให้ชีวิตกับมนุษย์ว่า
﴿ٱلَّذِي خَلَقَ ٱلۡمَوۡتَ وَٱلۡحَيَوٰةَ لِيَبۡلُوَكُمۡ
أَيُّكُمۡ أَحۡسَنُ عَمَلٗاۚ وَهُوَ ٱلۡعَزِيزُ ٱلۡغَفُورُ 2 ﴾ [الملك: 2]
ความว่า “พระองค์ผู้สร้างความตายและการมีชีวิต
เพื่อที่จะทดสอบพวกเจ้าว่า ใครที่ปฏิบัติอะมัลได้อย่างดีที่สุด พระองค์คือผู้ทรงเกรียงไกรและทรงอภัยยิ่ง”
(อัล-มุลก์ 2)
การปฏิบัติอะมัลที่ดีที่สุด คือ อะมัลที่มีสองเงื่อนไขนั่นก็คือ
ต้องบริสุทธิ์ใจ/อิคลาศต่ออัลลอฮ์พระองค์เดียวเท่านั้น และต้องตรงกับตัวอย่างหรือวิถีปฏิบัติตามสุนนะฮ์ของท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ดังที่อุละมาอ์ได้ให้คำอธิบาย
สาม การเชิญชวนและเรียกร้องสู่ทั้งสองปัจจัยข้างต้น กล่าวคือเชิญชวนคนสู่การศรัทธาและทำอะมัลความดี ทั้งการสนับสนุน การบอกกล่าว
การสะกิดเตือน การสอน และอื่นๆ เป็นต้น ทั้งนี้ ภารกิจในการเชิญชวนผู้อื่นสู่ความดีและหักห้ามไม่ให้ทำความชั่วนั้น
เป็นภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากอัลลอฮ์ และเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่ทำให้ประชาชาตินี้ได้รับเกียรติและสถานะอันสูงส่ง
อัลลอฮ์ได้ตรัสว่า
﴿كُنتُمۡ خَيۡرَ أُمَّةٍ أُخۡرِجَتۡ لِلنَّاسِ
تَأۡمُرُونَ بِٱلۡمَعۡرُوفِ وَتَنۡهَوۡنَ عَنِ ٱلۡمُنكَرِ وَتُؤۡمِنُونَ بِٱللَّهِۗ
﴾ [آل عمران: 110]
ความว่า “พวกเจ้าคือประชาชาติที่ดีที่สุดซึ่งบังเกิดมาเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ
ด้วยการที่พวกเจ้าสั่งใช้กันในความดี หักห้ามจากความชั่ว และพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮ์”
(อาล อิมรอน 110)
การเชิญชวนสู่ความดีและยับยั้งความชั่ว จะส่งผลให้สังคมโดยรวมปลอดภัยจากสิ่งที่อาจจะนำภัยพิบัติมาสู่มนุษย์
การเพิกเฉยต่อเรื่องดังกล่าวนี้คือเหตุแห่งความหายนะและความขาดทุนที่จะเกิดขึ้นไม่ใช่เฉพาะต่อบุคคลเท่านั้นแต่ยังหมายถึงความหายนะของสังคมโดยรวมด้วยเช่นกัน
สี่ การสั่งเสียและส่งกำลังใจกันให้มีความอดทน นั่นก็คือ อดทนต่อสามเรื่องที่กล่าวมา ตั้งแต่การอดทนที่จะเรียนรู้เพื่อเป็นผู้ศรัทธา
อดทนในการทำความดีและละเลิกจากความชั่ว รวมถึงอดทนในการเชิญชวนผู้อื่น
ทั้งสามอย่างนี้ล้วนต้องอาศัยความอดทนทั้งสิ้น และยังต้องอดทนในทุกๆ สภาวการณ์ที่อัลลอฮ์กำหนดให้เราต้องประสบพบเจอในการดำรงชีวิตแต่ละวัน
อัลลอฮ์ได้สั่งผู้ศรัทธาไว้ในหลายที่ของอัลกุรอานให้เราอดทน
เช่นพระดำรัสของพระองค์
﴿يَٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُواْ ٱصۡبِرُواْ
وَصَابِرُواْ وَرَابِطُواْ وَٱتَّقُواْ ٱللَّهَ لَعَلَّكُمۡ تُفۡلِحُونَ 200﴾ [آل عمران: 200]
ความว่า “โอ้ ผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงอดทนเถิด จงสู้อดทน จงธำรงรักษาความดีให้มั่นคง
และจงยำเกรงต่ออัลลอฮ์เถิด เพื่อว่าพวกเจ้าจะประสบความสำเร็จ” (อาล อิมรอน 200)
ความอดทนคือแสงสว่างที่จะส่องให้เราเห็นหนทางแห่งการรอดพ้น
เมื่อไรก็ตามที่ชีวิตประสบปัญหาอยู่ในความมืดมินไม่รู้ว่าเดินหรือหาทางออกไปในทางใด
การอดทนจะช่วยให้เรามีสติและตั้งตัวที่จะคิดหาทางที่ดีที่สุดเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ
ให้รอดปลอดภัย
พี่น้องครับ
ทั้งสี่ประการนี้คือระดับชั้นแห่งการแสวงหาความสมบูรณ์ให้กับชีวิตและได้รอดพ้นจากความขาดทุน
เริ่มตั้งแต่การแสวงหาความรู้เพื่อให้เกิดศรัทธาที่ถูกต้อง การปฏิบัติตามความรู้ที่เรียนมา
การบอกต่อความรู้ดังกล่าวแก่ผู้อื่น และการอดทนทั้งในการเรียน การทำ
และการสอนความรู้นั้น[1]
พี่น้องที่อัลลอฮ์เมตตาทุกท่าน
นี่คือไกด์ไลน์ หรือคำแนะนำเป็นคู่มือชีวิตจากสูเราะฮ์ อัล-อัศร์ ซึ่งชาวสะลัฟบรรพบุรุษอิสลามในอดีตให้ความสำคัญกับสูเราะฮ์นี้มาก
มีรายงานจากอบู มะดีนะฮ์ อัด-ดาริมีย์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า
เวลาที่เศาะหาบะฮ์สองคนเจอกัน พวกเขาจะไม่แยกจากกันไปจนกว่าจะอ่านสูเราะฮ์อัล-อัศร์ให้แก่กันเป็นการเตือนสติ
หลังจากนั้นก็จะให้สลามกัน (บันทึกโดยอัฏ-เฏาะบะรอนีย์ ใน อัล-มุอฺญัม อัล-วะสีฏ 5124, อัล-อัลบานีย์วินิจฉัยสายรายงานว่า เศาะฮีห์
ในสิลสิละฮ์ อัศ-เศาะฮีหะฮ์ 2648)[2]
ในขณะเดียวกัน อิมาม อัช-ชาฟิอีย์ ก็ได้กล่าวถึงสูเราะฮ์นี้ว่า “หากผู้คนทั้งหมดร่วมกันไตร่ตรองสูเราะฮ์อัล-อัศร์อย่างจริงจัง
ก็เพียงพอสำหรับพวกเขา” [3] หมายถึงเพียงพอที่จะใช้เป็นไกด์ไลน์ต้นทางในการนำทางชีวิตได้อย่างเข้าใจถ่องแท้
จะได้เห็นว่า สูเราะฮ์ อัล-อัศร์ คือเนื้อหาสำคัญที่จะพาให้เราเข้าใจถึงข้อเท็จจริงของความขาดทุนและหนทางที่จะทำให้เราปลอดภัยโดยเฉพาะในโลกอาคิเราะฮ์
การขาดทุนในดุนยาอาจจะมีหนทางที่จะแก้ไขได้ แต่ถ้าขาดทุนในอาคิเราะฮ์ย่อมไม่มีโอกาสจะกลับมาแก้ไขอะไรได้อีก
อัลลอฮ์ตรัสว่า
﴿قُلۡ
إِنَّ ٱلۡخَٰسِرِينَ ٱلَّذِينَ خَسِرُوٓاْ أَنفُسَهُمۡ وَأَهۡلِيهِمۡ يَوۡمَ ٱلۡقِيَٰمَةِۗ
أَلَا ذَٰلِكَ هُوَ ٱلۡخُسۡرَانُ ٱلۡمُبِينُ 15﴾ [الزمر: 15]
ความว่า “จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) แท้จริงแล้ว บรรดาคนที่ขาดทุนอย่างแท้จริงคือคนที่สูญเสียทั้งตัวพวกเขาเองและครอบครัวในวันกิยามะฮ์
พึงทราบเถิดนั่นแหละคือความขาดทุนอันชัดแจ้ง” (อัซ-ซุมัร 15)
ดังนั้น มาร่วมกันศึกษาไกด์ไลน์ชีวิตจากสูเราะฮ์อัล-อัศร์นี้และนำไปใช้ให้ได้มากที่สุด
หากเราหวังที่จะพบกับความรอดพ้นจากหายนะและขาดทุนในโลกอาคิเราะฮ์ที่เราทุกคนต้องกลับไปอย่างแน่นอน
[1]
يقول ابن القيم: وبيان
ذلك أن المَراتِب أربعة وباستكمالها يحصل للشَّخْص غايَة كَماله: إحداها معرفَة
الحق، الثّانِيَة عمله بِهِ، الثّالِثَة تَعْلِيمه من لا يُحسنهُ، الرّابِعَة صبره
على تعلمه والعَمَل بِهِ وتعليمه. [مفتاح دار السعادة].
[2]
قال الصحابي أبو
مَدِينة الدارمي- رضي الله عنه: كان الرجلان من أصحاب النبي- صلى الله عليه
وسلم- إذ التقيا لم يفترقا حتى يقرأ أحدُهما على الآخَرِ" والعصر
إن الإنسان لفي خسر" ثم يُسَلِّم أحدهما على الأخر".[ أخرجه الطبراني في
المعجم الوسيط( 5124) وصحح إسناده الشيخ الألباني في السلسلة الصحيحة( 2648).
[3]
قال الإمام الشافعي- رحمه
الله تعالى-:( لو فكر الناس كلُّهم في سورة العصر لكفتهم). [ذكره شيخ الإسلام ابن
تيمية في كتاب الاستقامة (1/259).
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
- สงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นใดๆ ก็ตามที่พิจารณาว่าไม่เหมาะควร -
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น