ฟังคุฏบะฮ์นี้ได้จาก YouTube
https://www.youtube.com/watch?v=6Yv1TUvfFN4
หรือบน SoundCloud
พี่น้องผู้ร่วมละหมาดญุมุอะฮ์ที่อัลลอฮ์เมตตาทุกท่าน
เรากำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่ประเสริฐที่สุดช่วงหนึ่งของปี
ช่วงเวลาที่อัลลอฮ์ สุบหานะฮูวะตะอาลา ทรงให้เกียรติและประทานความบารอกะฮ์
ความดีงามไว้อย่างมากมาย นั่นคือ สิบวันแรกของเดือนซุลหิจญะฮ์ เดือนนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับมุสลิม
เพราะเป็นเดือนที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับรุก่นอิสลามข้อสุดท้าย นั่นคือ
การทำหัจญ์
อิบนุ หะญัร ได้กล่าวว่า
“เหตุผลสำคัญที่ทำให้สิบวันแรกของเดือนซุลหิจญะฮ์เต็มไปด้วยความประเสริฐนั้น
ก็เพราะ ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่อิบาดะฮ์หลักต่างๆ
มาบรรจบอยู่ด้วยกัน ซึ่งก็คือการละหมาด การถือศีลอด การบริจาคทาน และการทำหัจญ์
ซึ่งสิ่งนี้ไม่มีในวันอื่นนอกจากสิบวันแรกของซุลหิจญะฮ์”[1] (ฟัตหุลบารี 2/460)
อัลลอฮ์ สุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงสาบานด้วยช่วงเวลานี้ในคัมภีร์อัลกุรอาน
โดยตรัสในสูเราะฮ์ อัล-ฟัจญร์ ว่า
﴿ وَٱلۡفَجۡرِ ١ وَلَيَالٍ عَشۡرٖ ٢ ﴾ [الفجر: ٢]
ความว่า “ขอสาบานด้วยยามรุ่งอรุณและด้วยค่ำคืนทั้งสิบ”
(อัล-ฟัจญร์ :1-2)
ท่านอิบนุอับบาส, อัซ-ซุบัยร์,
มุญาฮิด และบรรดาสะลัฟท่านอื่นๆ ได้กล่าวว่า “ช่วงเวลาที่ถูกกล่าวถึงในอายะฮ์นี้ คือช่วงสิบวันแรกของเดือนซุลหิจญะฮ์” อิบนุ
กะษีรฺกล่าวว่า นี่คือทัศนะที่ถูกต้อง (ตัฟสีรฺอิบนุกะษีรฺ
เล่ม 4 หน้า 505)
พระองค์ยังได้ตรัสอีกในสูเราะฮ์ อัล-หัจญ์ ว่า
﴿ لِّيَشۡهَدُواْ مَنَٰفِعَ لَهُمۡ وَيَذۡكُرُواْ ٱسۡمَ ٱللَّهِ فِيٓ أَيَّامٖ مَّعۡلُومَٰتٍ عَلَىٰ مَا رَزَقَهُم مِّنۢ بَهِيمَةِ ٱلۡأَنۡعَٰمِۖ فَكُلُواْ مِنۡهَا وَأَطۡعِمُواْ ٱلۡبَآئِسَ ٱلۡفَقِيرَ ٢٨ ﴾ [الحج : ٢٨]
ความว่า “เพื่อพวกเขาจะได้มาร่วมเป็นพยานในผลประโยชน์ของพวกเขา
และกล่าวพระนามอัลลอฮ์ในวันที่รู้กันอยู่แล้ว (คือวันเชือด) ตามที่พระองค์ประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกเขาจากสัตว์สี่เท้า
ดังนั้นพวกเจ้าจงกินเนื้อมันและจงให้อาหารแก่ผู้ยากจนขัดสน” (อัล-หัจญ์ : 28)
ท่านอิบนุ อับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ได้กล่าวว่า “วันที่รู้กันอยู่แล้ว
คือสิบวันแรกของเดือนซุลหิจญะฮ์” (อัล-บุคอรีย์ หน้า 193)
นี่คือการยืนยันถึงความสำคัญและความประเสริฐของสิบวันแรกนี้จากอัลกุรอานและคำอธิบายของบรรดาเศาะหาบะฮ์ที่เป็นอุละมาอ์ชั้นนำ
พี่น้องครับ
ท่านเราะสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
ได้เน้นย้ำถึงความประเสริฐนี้ไว้อย่างชัดเจนในหะดีษที่ท่านอิบนุอับบาสได้รายงานจากท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ว่า
«مَا مِنْ
أَيَّامٍ العَمَلُ الصَالِحُ فِيْهِنَّ أَحَبُّ إِلَى
اللهِ مِنْ هَذِهِ
الأَيامِ العَشْرِ ،
فقالوا : ياَ رَسُوْلَ اللهِ ولا الجِهَادُ فِيْ سَبِيْلِ اللهِ؟
فَقَالَ رَسُوْلُ اللهِ : وَلَا
الجِهَادُ فِيْ سَبِيْلِ اللهِ إِلَّا رَجُلٌ
خَرَجَ بِنَفْسِهِ وَمَالِهِ فَلَمْ يَرْجِعْ مِنْ
ذَلِكَ بِشَيْءٍ» [البخاري
برقم 969، والترمذي برقم 757]
ความว่า “ไม่มีวันใดๆ
ที่การทำคุณงามความดีนั้นจะเป็นที่โปรดปรานของอัลลอฮ์
มากกว่าการปฏิบัติในสิบวันแรกของเดือนซุลหิจญะฮ์” บรรดาเศาะหาบะฮ์จึงถามว่า “โอ้ท่านเราะสูลุลลอฮ์ แม้กระทั่งการทำญิฮาดในหนทางของอัลลอฮ์กระนั้นหรือ?”
ท่านนบีตอบว่า “แม้กระทั่งการทำญิฮาดในหนทางของอัลลอฮ์
เว้นแต่ผู้ที่ออกจากบ้านของเขาพร้อมด้วยชีวิตและทรัพย์สินของเขา
โดยที่เขาไม่ได้สิ่งใดกลับมาเลย (หมายถึงเสียชีวิตในหนทางของอัลลอฮ์)” (อัล-บุคอรีย์
969 และอัต-ติรมิซีย์ 757)
หะดีษอีกบทจากท่านอิบนุ อุมัรฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ท่านเราะสูลุลลอฮ์
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
«مَا مِنْ
أَيامٍ أَعْظَمُ عِنْدَ
اللهِ، وَلَا أَحَبّ
إِلَيْهِ مِنَ اْلعَمَلِ فِيْهِن، مِنْ هَذِهِ
اْلأَيامِ العَشْرِ، فَأَكْثِرُوا فِيْهِنَّ التَهْلِيْلَ والتَكْبِيْرَ وَالتَحْمِيْدَ»
[رواه أحمد رقم 5446]
ความว่า “ไม่มีช่วงเวลาใดที่การทำความดีจะยิ่งใหญ่และเป็นที่รักยิ่ง
ณ ที่อัลลอฮ์ มากไปกว่าสิบวันแรกของเดือนซุลหิจญะฮ์ ดังนั้นพวกท่านจงกล่าวตะฮ์ลีลฺ
(ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์) ตักบีรฺ (อัลลอฮุอักบัร) และตะห์มีด (อัลหัมดุลิลลาฮ์)
ให้มากๆ ในวันเหล่านี้” (บันทึกโดยอะหฺมัด 5446)
อิบนุ เราะญับ ได้กล่าวเตือนใจว่า “อัลลอฮ์ทรงทำให้จิตใจของบรรดามุอ์มินผู้ศรัทธาถวิลหาการเยือนเพื่อไปเห็นบัยตุลลอฮ์
แต่มิใช่ทุกคนมีความสามารถที่จะไปได้ในทุกๆ ปี และการประกอบพิธีหัจญ์เป็นฟัรฎู(สิ่งจำเป็นต้องทำ)สำหรับมุสลิมที่มีความสามารถเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้นในชีวิตของเขา
เพราะฉะนั้นช่วงเวลาดังกล่าว (หมายถึงสิบวันแรกของซุลหิจญะฮ์) พระองค์จึงทรงทำให้ทั้งผู้ที่สามารถเดินทางไปประกอบพิธีหัจญ์และผู้ที่ไม่มีความสามารถ
ได้มีโอกาสปฏิบัติคุณงามความดีร่วมกัน ถึงแม้ว่าบุคคลๆ
นั้นจะปฏิบัติศาสนกิจอยู่ที่บ้านของเขาก็ยังจะได้รับผลบุญอันยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าการออกไปญิฮาดซึ่งมีความประเสริฐมากกว่าหัจญ์ด้วยซ้ำ” [2] (ละฏออิฟุลมะอาริฟ หน้า 272)
พี่น้องครับ
คำว่า อะมัลศอลิห์ (การทำความดี) นั้นมีความหมายที่กว้างขวางมาก เราลองพิจารณาดูว่าอะไรที่เราทำได้ง่ายและดีที่สุดในช่วงเวลาอันประเสริฐนี้
เริ่มตั้งแต่
หนึ่ง การซิกรุลลอฮ์ (รำลึกถึงอัลลอฮ์): จงกล่าวตะฮ์ลีลฺ, ตักบีรฺ,
ตะห์มีด ให้มากๆ รวมถึงตัสบีห์(สุบหานัลลอฮ์) และอิสติฆฟาร
(ขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์) เราสามารถซิกรุลลอฮ์ได้ทุกที่ทุกเวลา
ไม่จำเป็นต้องระบุเวลาที่เจาะจง ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
สอนให้เราซิกรุลลอฮ์ แม้จะอยู่ในที่ทำงาน หรืออยู่คนเดียวที่ไหนก็ตาม อัลลอฮ์
ตะอาลา ตรัสในหะดีษกุดซีย์ ว่า
«أَنَا عِنْدَ
ظَنّ عَبْدِيْ بِيْ،
وأَنَا مَعَهُ حِيْنَ
يَذْكُرُنِيْ، فَإِنْ ذَكَرَنِيْ فِيْ نَفْسِهِ ذَكَرْتهُ فِيْ نَفْسِيْ، وَإِنْ
ذَكَرَنِيْ فِيْ مَلَأ
ذَكَرْتُهُ فِيْ مَلَأ
هُمْ خَيْرٌ مِنْهُمْ»
[البخاري برقم 7405، ومسلم
برقم 2675]
ความว่า “ข้าอยู่กับการคาดหวังที่ดีของบ่าวของข้า
และข้าอยู่กับเขาเมื่อเขากล่าวระลึกถึงฉัน หากเขากล่าวระลึกถึงข้าในใจ ข้าก็จะกล่าวระลึกถึงเขาลับๆ
ผู้เดียว และหากเขากล่าวระลึกถึงข้าท่ามกลางหมู่ชน ข้าก็จะกล่าวระลึกถึงเขาในหมู่ชนที่ดีกว่าพวกเขา”
(อัล-บุคอรีย์ 7405, มุสลิม 2675)
สอง การถือศีลอด: เป็นอะมัลที่ประเสริฐในช่วงเวลากลางวัน เราสามารถเริ่มถือศีลอดได้ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่เก้าของเดือนซุลหิจญะฮ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันอะเราะฟะฮ์ การถือศีลอดในวันอะเราะฟะฮ์นั้นมีผลบุญที่ยิ่งใหญ่มหาศาล
(ยกเว้นคนที่อยู่ในหัจญ์การถือศีลอดวันอะเราะฟะฮ์เป็นสิ่งที่ห้ามทำสำหรับเขา)
สาม การบริจาคทาน: เป็นหนึ่งในอิบาดะฮ์หลักที่รวมอยู่ในช่วงเวลานี้ จงให้ทานบริจาค ช่วยเหลือผู้ยากไร้ขัดสนและช่วยเหลือผู้อื่นโดยทั่วไปเพื่อการมีส่วนร่วมในความดีงามอันหลากหลายตามที่เราสะดวก
สี่ การเตรียมตัวเพื่อทำกุรบ่านหรือเชือดอุฎหิยะฮ์: สำหรับผู้ที่มีความสามารถ การเตรียมเงินและตั้งใจที่จะทำกุรบานก็ถือเป็นอะมัลศอลิห์ สำหรับผู้ที่ตั้งใจจะทำกุรบ่านมีสุนนะฮ์ให้เขาไม่ตัดเล็บ ไม่กำจัดขน
จนกว่าจะเชือดสัตว์เสร็จแล้ว
ห้า การอ่านอัลกุรอาน: ก็เป็นส่วนหนึ่งของการซิกรุลลอฮ์และอะมัลศอลิห์ที่ประเสริฐที่สุด
ที่สำคัญ เดือนซุลหิจญะฮ์นี้ยังเป็นหนึ่งใน สี่เดือนต้องห้าม (อัล-อัชฮุรุลหุรุม) ซึ่งเป็นเดือนที่อัลลอฮ์
ตะอาลา ให้เกียรติ ดังนั้น
เราจึงต้องให้เกียรติวันและเวลาเหล่านี้ที่อัลลอฮ์ให้เกียรติ
ด้วยการเพิ่มพูนการทำอะมัลอิบาดะฮ์ และพยายามหลีกเลี่ยงการทำบาป การฝ่าฝืน
การอยุติธรรม การออกห่างจากอุตริกรรมต่างๆ ให้มากที่สุดในช่วงเวลาต้องห้ามเหล่านี้
นี่คือการแสดงความเคารพต่อสัญลักษณ์ของอัลลอฮ์ (ชะอาอิรุลลอฮ์)
ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ความยำเกรงในหัวใจของเรา
﴿ ذَٰلِكَۖ وَمَن يُعَظِّمۡ شَعَٰٓئِرَ ٱللَّهِ
فَإِنَّهَا مِن تَقۡوَى ٱلۡقُلُوبِ 32 ﴾
[الحج: 32]
ความว่า “ดังนั้นแล้ว ผู้ใดก็ตามที่ให้เกียรติเชิดชูสัญลักษณ์ของอัลลอฮ์
แท้จริง มันเป็นความยำเกรงของหัวใจ” (อัล-หัจญ์ 32)
พี่น้องที่อัลลอฮ์รักและเมตตาทุกท่านครับ
หนึ่งในวันที่ประเสริฐที่สุดของปีซึ่งอยู่ในช่วงสิบวันนี้ คือ วันอะเราะฟะฮ์ เป็นวันที่เราควรใช้โอกาสนี้ในการขอพร(ดุอาอ์)ต่ออัลลอฮ์
สุบฮานะฮูวะตะอาลา อัลลอฮ์ทรงรักบ่าวที่ขอต่อพระองค์ จงเตรียมตัว
เตรียมสิ่งที่เราอยากจะร้องขอต่อพระองค์ไว้ตั้งแต่ตอนนี้
เพื่อว่าเมื่อถึงวันอะเราะฟะฮ์ เราจะได้ร่วมกันขอพร ถึงแม้ว่าชีวิตของเราจะเจออุปสรรคมากมายเพียงใด
การขอพรต่ออัลลอฮ์คือเครื่องพิสูจน์ว่าเราไม่เคยทิ้งพระองค์ และเมื่อเราไม่ทิ้งพระองค์
แล้วพระองค์จะทิ้งเราได้อย่างไร? เราต้องมีความคาดหวังที่ดีต่ออัลลอฮ์
ตะอาลา เพราะพระองค์ตรัสแล้วว่า “ข้าอยู่กับการคาดหวังที่ดีของบ่าวของข้า”
เมื่อเราขออะไรจากพระองค์ หรือเผชิญปัญหาใด
จงคิดว่าอัลลอฮ์จะประทานให้และช่วยเหลือเราอย่างแน่นอน
สิบวันแรกของเดือนซุลหิจญะฮ์คือช่วงเวลาทองอันล้ำค่า
เป็นของขวัญพิเศษจากอัลลอฮ์แก่เรา จงใช้ช่วงเวลานี้อย่างคุ้มค่าที่สุดเพื่อเข้าใกล้ชิดอัลลอฮ์
ด้วยใจที่บริสุทธิ์ เต็มใจ และอิ่มอกอิ่มใจ ผลลัพธ์ของการทำอะมัลในสิบวันแรกนี้จะปรากฏให้เห็นทั้งในโลกดุนยาและในวันอาคิเราะฮ์
การทำอะมัลศอลิห์เปรียบเสมือนเสื้อผ้าที่สวยงามสำหรับบ่าวผู้ศรัทธา จงสวมใส่มันให้สวยงามในวันอันประเสริฐเหล่านี้
เราขอวิงวอนต่ออัลลอฮ์ สุบฮานะฮูวะตะอาลา ให้ประทานความเข้าใจและความสามารถแก่เราในการใช้ช่วงเวลาอันประเสริฐนี้เพื่อทำอะมัลศอลิห์ที่พระองค์ทรงรัก
และให้ทรงตอบรับการงานของเราทุกคน อามีน
[1] يقول ابن حجر في فتح الباري (2/460) :"والذي يظهر أن السبب في امتياز
عشر ذي الحجة لمكان اجتماع أمهات العبادة فيها، وهي الصلاة والصيام والصدقة والحج,
ولا يتأتى ذلك في غيره". انتهى كلامه.
[2] يقول ابن رجب في لطائف المعارف (ص272) :" لما كان الله سبحانه وتعالى قد وضع في نفوس المؤمنين حنينا إلى مشاهدة بيته
الحرام وليس كل أحد قادرا على مشاهدته في كل عام فرض على المستطيع الحج مرة واحدة
في عمره وجعل موسم العشر مشتركا بين السائرين والقاعدين فمن عجز عن الحج في عام
قدر في العشر على عمل يعمله في بيته يكون أفضل من الجهاد الذي هو أفضل من الحج".
انتهى كلامه.